เนื้อเพลงของวงเกิร์ลกรุ๊ป BNK 48
เป็นอะไรที่กลวงพอๆ กับโปรแกรมทัวร์
ของนักท่องเที่ยวระดับทัวริสต์ดาดๆ??
———————-
– เช้านี้ตื่นมาพร้อมกับเห็นดราม่าใหม่
ตามสไตล์บทความจากเวป The Matter
ที่มักจะเผยแพร่บทความจากนักวิชาการ
ที่มักมีอคติและชอบจิกกัดสังคมไทยบ่อยๆ
– สำหรับดราม่าครั้งนี้มาจาก
บทความของ “ศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ”
นักวิชาการโบราณคดี และ ประวัติศาสตร์
ซึ่งเป็นคอลัมนิสท์ประจำของ The Matter
ที่เขียนแดกดันถึง “เพลงชาติของ BNK48”
คือ #ภาพสะท้อนความเป็นไทยแบบกลวงๆ
https://www.facebook.com/thematterco/posts/1995763490639043
https://thematter.co/thin…/thai-symbolic-in-bnk48-song/44653
หมายเหตุ: บางคนก็วิจารณ์ The Matter
ปล่อยให้ศิริพจน์มาเขียนแบบนี้ได้ยังไงกัน?
คนที่พูดคงไม่ทราบว่าศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ
คือ หนึ่งในนักเขียนหลักของ The Matter เลย
เขาเขียนคอลัมน์ชื่อ “ไทยๆในโลกล้วนอนิจจัง”
ซึ่งมักมีเนื้อหาจิกกัดประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม
และความเชื่อในประเทศไทยมาโดยตลอด
https://thematter.co/author/siripoj
————————-
1. เริ่มต้นศิริพจน์อารัมบทที่มาของ BNK48
พอสังเขป (ซึ่งนั่นไม่ใช่ประเด็นของบทความ)
ศิริพจน์เริ่มต้นการจิกกัด/แซะ ด้วยการบอกว่า
เพลงต้นฉบับใช้ชื่อเดียวกับวงดนตรี แต่ทำไม
ของไทยมาเรียก “เพลงชาติ” ซะยังงั้น ???
– ซึ่งเรื่องนี้มันก็ไม่ได้เข้าใจอะไรยากเลยครับ
คือแฟนเพลงเขาเรียกแบบง่ายๆ ว่าเพลงชาติ
หมายถึง เพลงประจำของ วงเครือข่าย __48
ที่วงประจำถิ่น/ประเทศ จะมีเพลงที่บรรยาย
ถึงจุดขาย สถานที่ท่องเที่ยว อาหารการกิน
อันเป็นการโปรโมตประเทศหรือท้องถิ่นนั้น
(สรุปคือ เพลงชาติ คือคำแสลง
ที่เอาไว้เรียกเพลงประจำวงเหล่านั้น)
– ซึ่งเป็นกลยุทธทางการตลาดของญี่ปุ่น
ที่เวลาตั้งวงสาขาในประเทศต่างๆ ก็จะใช้
การตลาดแบบเอเชียคือมาแบบฉันท์มิตร
มาซื้อใจ ว่าฉันช่วยโปรโมตวัฒนธรรมนะ
ฉันมาแบบเป็นมิตรนะ มาแบบใสๆ ซื่อๆ
ทำให้คนท้องถิ่นรู้สึกว่าไม่แปลกแยก
และรู้สึกมีส่วนร่วม รู้สึกดีกับต้นสังกัด
(ซึ่งเวลาทำธุรกิจ ญี่ปุ่นก็จะมาแบบนี้
ต่างกับมหาอำนาจตะวันตกทั้งหลาย
ที่มาแบบเบ่งใส่ชาติกำลังพัฒนาต่างๆ
โดยอ้างหลักการ/กฎเกณฑ์/มาตรฐาน
แล้วบอกว่านี่คือ “สากล” ที่ต้องทำตาม)
– ด้วยความที่ศิริพจน์ไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้
หรือเข้าใจแต่แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจเพื่อจะได้
เขียนบทความได้แบบที่ทำประจำๆ ก็ไม่ทราบ
ก็เลยออกมาเริ่มต้นด้วยการ “แซะ” เรื่องนี้ก่อน
————————-
2. ศิริพจน์เริ่มจากแซะขั้นต่อไปด้วยการโยง
ว่าทำไมเพลงของ BNK48 พูดถึงแต่สถานที่
ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สื่อถึง “ความศิวิไลซ์”
อย่าง อโศก บางกะปิ ลาดพร้าว จตุจักร รัชดา
หรือหัวลำโพง และย่านปากคลองตลาด ฯลฯ
แต่ไม่พูดถึงชุมชนแออัดหรือย่านชานเมือง
ที่มีแรงงานต่างชาติมาอยู่เหมือนค่ายผู้ลี้ภัย!!
– ซึ่งอันนี้ใช้สามัญสำนึก (Common Sense)
คนทั่วไปก็คงเข้าใจว่าคงไม่มีค่ายเพลงที่ไหน
ที่เขาจะมาแต่งเพลงสำหรับวงไอดอลเกิร์ลกรุ๊ป
ในด้านมืดของสังคม หรือให้ฟังดูแย่ๆ หรอกครับ
เขาแต่งเพลงเน้นความสดใส ขายการท่องเที่ยว
หมายเหุต: ความเห็นบางอันในเพจบอกว่า
อย่างไปเที่ยวอเมริกา นิวยอร์ค คนก็ต้องพูด
ถึงย่าน Fifth Avenue ที่คนไปเดินช็อปปิ้งกัน
ไม่มีใครมาพูดถึงหรือชื่นชมว่าได้ไปเที่ยวย่าน
ที่ Gangster ยิงกันหรือขายยาเสพติดกันหรอก ”
– ซึ่งนั่นก็เป็นธรรมชาติของการท่องเที่ยว
ไปญี่ปุ่นก็ต้องพูดถึงย่านของกิน ร้านอร่อย
ไปเที่ยววัด-ศาลเจ้า ที่แสดงวัฒนธรรมญี่ปุ่น
ไม่มีใครมานำเสนอคาบูกิโจในโตเกียว หรือ
ย่านโทบิตะ ชินจิ ในโอซาก้าที่เป็นโคมแดง
หรือแหล่งค้าประเวณี ที่มียากูซ่านั่งคุมหรอก
– เขาไม่ได้แต่งเพลงมาเพื่อจะแสดงถึง
“ความสูงส่งทางจริยธรรม” แบบที่นักวิชาการ
และปัญญาชนหัวก้าวหน้าชอบพรีเซ็นต์ตัวเอง
ว่าตนเองนั้นเป็นกลุ่มคนที่ฉลาดล้ำทางปัญญา
กว่าคนไทยส่วนใหญ่ในสังคมที่โง่งมงายและ
อนุรักษ์นิยม ล้าหลัง เห็นคนไม่เท่าเทียมกัน
ไม่เทิดทูนและบูชาประชาธิปไตย บลาๆๆๆ
เขาไม่ได้แต่งเพลงมาเพื่อบอกว่า
พวกฉันเห็นปัญหาของเพื่อนมนุษย์
และใส่ใจพวกเขามากนะ บลาๆๆๆๆ
————————-
3. ถัดมา ศิริพจน์ก็พูดถึงวัดในเนื้อเพลง
ว่าทำไมมีแต่วัดอรุณฯ วัดพระแก้ว วัดระฆัง
วัดสระเกศ วัดบวรฯ วัดโพธิ์ รวมถึงวัดสุทัศน์
ที่เป็นวัดหลวงเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญใน กทม.
แล้วก็แซะว่า ความเป็นไทย ถูกนำไปผูกอยู่กับ
ศาสนาพุทธ #ไม่เห็นหัวคนที่นับถือศาสนาอื่น
– ก็ไม่เห็นจะแปลกอะไรครับ ก็ประเทศไทย
มีชาวพุทธเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นวัฒนธรรมนำ
ของประเทศนี้จึงเป็นวัฒนธรรมเกี่ยวกับพุทธ
เหมือนถ้าไปประเทศที่เป็นอิสลามหรือคริสต์
เขาก็มีวัฒนธรรมนำของเขา ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
ไม่ต่างอะไรจากญี่ปุ่นที่นำเสนอภาพ
ของวัด-ศาลเจ้า เพราะคนบ้านเขานั้น
มีวัฒนธรรมแบบ Shinbutsu-shūgō
(พุทธผสมชินโต)
– ผมเป็นคริสต์แต่กำเนิดเติบโตย่านบางรัก
บ้านอยู่หลังโรงเรียน วัด/อาสนวิหารอัสสัมชัญ
หลังบ้านติดโรงเรียนวัดสวนพลูได้ยินสวดทุกวัน
เดินถัดไปหน่อยก็เป็นชุมชนมุสลิม ติดสถานทูต
ออกจากซอยก็เป็นร้านอาหารอิสลาม เดินขึ้นไป
อีกสองป้ายรถเมล์ก็เป็นวัดแขก พราหมณ์ฮินดู
ก็ไม่เห็นว่าเขาจะมีปัญหาอะไรกันเลย
– และเหล่าผู้คนอาศัยในชุมชนทางศาสนา
ริมแม่น้ำเจ้าพระยามาตั้งแต่อดีต ก็จะเห็นว่า
เขาอยู่กันด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรม
และความเชื่อมาเป็นร้อยปีแล้วครับ ไม่มีปัญหา
เขาก็รู้กันว่าคนส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ ภาพของ
เมืองไทยก็พรีเซ็นต์เป็นดินแดนพุทธ แต่ก็ไม่มี
ปัญหากับเสรีภาพของศาสนาและชาติพันธุ์อื่น
– ประเทศไทยเรานี่สุดจะเสรีเลยครับ
บางย่านเดินไปมีตั้งแต่ฝรั่ง ละติน แขก
จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ฯ นั่งกินเบียร์เฮฮากัน
ไม่เคยมีปัญหาด้านการเหยียดเชื้อชาติ
เหยียดสีผิว เหยียดเผ่าพันธุ์แบบตะวันตก
*** จะมีก็แต่นักวิชาการบางกลุ่มนี่แหละ
ที่เที่ยวจุดประเด็นให้คนเขาเกลียดชังกัน
เพื่อตัวเองจะได้ทำทีเป็นผู้นำทางจริยธรรม
ที่แสร้งเอาตัวเข้ามาช่วยเหลือและเห็นใจคน
(ที่ตัวเองคอยล้างสมองให้เขารู้สึกว่ามีปมด้อย)
————————-
4. ศิริพจน์มาจิกกัดเรื่องอาหารไทย
ว่าอาหารไทยในเพลงส่วนใหญ่นั้นเป็น
อาหารริมทาง (Street Food) แต่รัฐบาล
กลับจัดระเบียบทางเท้า ทำให้ต้องไว้อาลัย
– โดยที่ศิริพจน์ คงไม่ทราบว่า ภาครัฐ
ได้จัดระเบียบ ไม่ใช่ไม่ให้ขาย แต่ให้ขาย
อยู่ในพื้นที่ที่กำหนดไว้ ไม่ใช่ขวางทางเท้า
ละเมิดสิทธิผู้ใช้ถนน ที่เขามีสิทธิในทางเดิน
– ทางเท้าไหนกว้างพอ เขาก็มีเขตให้ตั้ง
รถเข็น (เส้นสีเหลือง) ทางเท้าไหนเล็กมาก
ที่จะเดิน ยังเดินยาก เขาก็ไม่ให้ตั้งตรงจุดนั้น
เพราะคนทั่วไปที่เดินทางเท้าพอเจอแผงลอย
เดินไม่ได้ ก็ต้องไปเดินบนถนน เสี่ยงอันตราย
– ซึ่งก็แปลกดีนะครับที่นักวิชาการกลุ่มนี้
ชอบอ้างเรื่อง “สิทธิ” แต่หลายครั้งมักพบว่า
พวกเขาชอบอ้างคนจน(?) อ้างพ่อค้าแม้ค้า
ที่กระทำการอันละเมิดสิทธิผู้อื่น ยึดทางเดิน
สาธารณะไปเป็นของตัวเองอย่างไม่ละอาย
————————-
5. ศิริพจน์สรุปไว้ในช่วงท้ายๆ ว่า
สุดท้ายแล้ว “เพลงชาติ” ของ BNK48 นี้
ก็นำเสนอ กรุงเทพฯ สำหรับนักท่องเที่ยว
แถมยังเป็น #นักท่องเที่ยวแบบทัวริสต์ดาดๆ
(ดูเหมือนพวกนักวิชาการหัวก้าวหน้าผู้สูงส่ง
จะชอบเหยียดวัฒนธรรมของคนหมู่มากเสมอ)
พร้อมลงท้ายด้วยว่าเพลงของ BNK48
สะท้อนภาพของความเป็นไทยที่ #กลวง
แต่ก็นั่นแหละความกลวงนี้อาจะเป็นสิ่งที่
เรียกว่าความเป็นไทยที่แท้จริงก็ได้…
“ดังนั้นความเป็นกรุงเทพฯ (ซึ่งพอจะเหมารวมว่า แทบจะเป็นภาพแทนของความเป็นไทย ในสายตาของใครหลายคนได้นั้น) จึงอาจจะเป็นอะไรที่ กลวงพอๆ กับโปรแกรมทัวร์ของนักท่องเที่ยว ระดับทัวริสต์ดาดๆ ที่ผ่านทางเข้ามาก็ได้นะครับ และบางทีก็นี่แหละที่คือ ความเป็นไทยที่แท้ทรู”
https://thematter.co/thin…/thai-symbolic-in-bnk48-song/44653
*** คาดว่าตอนเขียนบทความนี้เสร็จ
ผู้เขียนคงรู้สึกฟินมากที่สามารถโยง
จากเพลงของไอดอล BNK48 แล้ว
จบลงที่ด่าความเป็นไทยว่า “กลวง”
เหมือนกับเพลงของไอดอลวงนี้
ป.ล.ว่าแต่พวกนักวิชาการหัวก้าวหน้าพวกนี้
ก็แปลกดีนะครับ ชอบออกมาให้สังคมเขาด่า
กรณีตูนบอดี้แสลมก็ทีแล้ว ออกมาจิกกัดรายวัน
แทนที่จะได้มวลชนเพิ่ม กลายเป็นยิ่งทำให้ผู้คน
พากันรังเกียจ “นักวิชาการ” พวกนี้มากกว่าเดิม
(เรียกว่า วันๆ หาแต่เรื่องทำลายตัวเองทั้งนั้น)
หมายเหตุ: ภาพประกอบที่ 3 จากคลิปที่
ศิริพจน์ให้สัมภาษณ์จอม เพชรประดับเรื่อง
ตีความ”หมุดหน้าใส”ไสยศาสตร์-การปกครองของ”กษัตริย์ไทย”
https://www.youtube.com/watch?v=k7QbgzZWlvk
ซึ่งปัจจุบันต้นฉบับของช่องนั้นได้ลบคำว่า
“ของกษัตริย์ไทย” ออกไปแล้ว แต่ยังมีคน
ที่อยู่ในเครือข่ายนี้ นำคลิปพร้อมทั้งชื่อเดิม
ไปลงในช่อง youtube อื่นๆ ให้ได้เห็นกันอยู่