นายนเรนทรา โมดี กลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของอินเดีย ที่เดินทางเยือนเขตยึดครองเวสต์ แบงค์ เมื่อวันเสาร์ เพื่อพบหารือกับประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ของชาวปาเลสไตน์ ส่วนหนึ่งของการเดินทางเยือนภูมิภาคตะวันออกกลาง

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองรามัลลาห์ เขตเวสต์? แบงค์ของชาวปาเลสไตน์ เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ว่า การเยือนเวสต์ แบงค์ ซึ่งมีขึ้นหลายสัปดาห์ หลังจากโมดีให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ถูกมองว่าเป็นความพยายามของอินเดีย ที่จะสร้างสมดุลในการกระชับความสัมพันธ์กับรัฐชาวยิว
โมดีพร้อมด้วยคณะผู้ติดตาม นั่งเฮลิคอปเตอร์จากจอร์แดน ลงจอดใกล้สำนักงานของอับบาสในเมืองรามัลลาห์
โมดีและอับบาสกำหนดหารือกันในหลายประเด็น รวมถึง เทคโนโลยีข้อมูลข่าวสาร สาธารณสุข และการท่องเที่ยว ในระหว่างการพบปะกันในระยะเวลาสั้นๆ ก่อนที่โมดีจะกลับไปยังจอร์แดน

นิวเดลีแสดงจุดยืนมานาน ในการสนับสนุนการก่อตั้งประเทศของชาวปาเลสไตน์ โดยเห็นด้วยกับหลักการรัฐเอกราชปาเลสไตน์ตั้งอยู่เคียงข้างอย่างสันติกับประเทศอิสราเอล
โมดีกลายเป็นผู้นำอินเดียคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่เดินทางเยือนอิสราเอล เมื่อเดือน ก.ค. ปีที่แล้ว และทั้ง 2 รัฐได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางด้านความมั่นคงไซเบอร์ และพลังงาน
อินเดียปฏิเสธที่จะสนับสนุนความเคลื่อนไหวของสหรัฐ ในการรับรองนครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงอย่างเป็นทางการของอิสราเอล ซึ่งแม้จะสร้างความผิดหวังให้กับอิสราเอลไม่น้อย แต่ก็สอดคล้องกับการให้ความสนับสนุนต่อชาวปาเลสไตน์

กำหนดการเยือนตะวันออกกลางเป็นเวลา 3 วันของโมดี จุดหมายต่อไปคือโอมานและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี)
รอบอ่าวเปอร์เซียถือเป็นภูมิภาคที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออินเดีย เนื่องจากเป็นแหล่งจัดส่งน้ำมันและพลังงานที่ใช้ในประเทศกว่าครึ่ง และมีคนงานอินเดียราว 9 ล้านคนทำงานอยู่ในภูมิภาคนี้ ส่งเงินกลับบ้านให้ครอบครัวรวมกันปีละหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ.

คลิปประกอบ – Prime Minister Narender Modi
… อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/foreign/626617