วันเสาร์ 23 พฤศจิกายน 2024
  • :
  • :
Latest Update

นายกฯ น้อมนำกระแสรับสั่ง ‘ในหลวง ร.10’ แก้น้ำท่วมอย่างยั่งยืน

“บิ๊กตู่” ขอ ปชช.ระลึกถึงสถาบันฯ ย้ำทรงรับสั่งแก้น้ำท่วมยั่งยืน แนะเรียนรู้รับมือภัยธรรมชาติ

นายกฯ ขอ ขรก.น้อมนำพระมหากรุณาธิคุณ “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ถึง ปชช.ด้วยความห่วงใย ขอ ปชช.ระลึกถึงสถาบันฯ ย้ำทรงรับสั่ง รบ.แก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน พร้อมมอบงบฯ ซ่อมอ่างห้วยทรายขมิ้น-ขุดลอกทุกที่กักเก็บน้ำ หวังกันฝนแล้ง สั่งผู้ว่าฯ ตั้งครัวชุมชนหุงอาหารแจก ขออย่าขัดแย้ง เตือนเรียนรู้รับมือภัยธรรมชาติ ยัน รบ.ไม่ทิ้งคนจน

วันนี้ (2 ส.ค.) เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 2 ส.ค.ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย และพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.เดินทางไปยังสนามบินค่ายกฤษณ์สีวะรา จ.สกลนคร เพื่อตรวจราชการและติดตามสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.สกลนคร โดยเมื่อเดินทางถึงสนามบินสนามบินค่ายกฤษณ์สีวะรา ได้รับฟังบรรยายสรุปปัญหาและการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจากนายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ว่าฯ จ.สกลนคร และรับฟังสถานการณ์น้ำจากนายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน

โดยนายกฯ กล่าวว่า มาวันนี้ไม่ได้มาเพื่อตำหนิใคร แต่ขอชื่นชมทุกคนตั้งแต่ระดับรัฐมนตรีลงมาถึงผู้ปฏิบัติที่ช่วยกันทำหน้าที่ ขอให้ทุกคนร่วมมือกันเพราะทุกคนคือข้าราชการของแผ่นดิน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งมาว่าขอให้ช่วยกันทำให้สถานการณ์ดีขึ้นโดยเร็ว และได้ทรงรับสั่งให้รัฐบาลมองการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้นให้ได้ รวมถึงทรงห่วงใยเรื่องการกักเก็บน้ำในทุกพื้นที่โดยให้มีการสำรวจความแข็งแรงของเขื่อนต่างๆ ให้เพิ่มขึ้น เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าอย่างอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นสร้างมานานกว่า 60 ปี อาจเท่าอายุตนประมาณ 63 ปีด้วยซ้ำ หากเก็บน้ำในสถานการณ์ปกติคงรับน้ำไหว แต่เมื่อสถานการณ์มากกว่าปกติก็รับน้ำไม่ได้ อีกประการที่พระองค์ท่านทรงรับสั่งคือให้ช่วยกันหาหญ้าแฝกปลูกไว้ริมอ่างเก็บน้ำเราเองต้องรับใส่เกล้าไว้ด้วย รวมถึงการขุดลอกทางระบายน้ำต่างๆ และพระองค์ทรงรับสั่งว่าให้นำแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ที่พระราชทานไว้มากมายมาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน พระองค์ท่านทรงติดตามทั้งข่าวโทรทัศน์ ข่าวถวายรายงานทั้งหมด และพระองค์ทรงทราบทุกอย่าง ตั้งแต่ที่พระองค์รับสั่งไว้กับตนสมัยรายงานตั้งแต่เป็นรัฐบาลแรก คือให้รัฐบาลดูแลประชาชนให้ดีที่สุด ทำให้ประชาชนพึงพอใจ มีอะไรที่สถาบันฯ พอจะช่วยได้ พระองค์ท่านก็จะพระราชทานความช่วยเหลือมาให้ เราก็จะเห็นว่าพระองค์ท่านได้พระราชทานสิ่งต่างๆ มาแล้วในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งศูนย์อาหารประชาชน และเพิ่มศูนย์อาหารสัตว์มาแล้วด้วย จะเห็นได้เราพระองค์ท่านทรงห่วงใยและติดตามทุกเรื่อง และทรงเข้าใจถึงปัญหาทั้งหมด

นายกฯ กล่าวต่อว่า สิ่งที่คนไทยต้องเข้าใจ คือ พื้นที่นี้เป็นพื้นที่หนึ่งที่เรากำลังเผชิญกับปัญหาอุทกภัย เป็นหนึ่งในหลายพื้นที่ในประเทศที่ต้องมีปัญหาแบบนี้ในอนาคต อาจจะใหญ่หรือเล็กกว่านี้ตนก็ไม่ทราบ เพราะมันเกิดสภาวะอากาศโลกเปลี่ยนแปลง ทั้งน้ำแข็งในขั้วโลกละลาย ระดับน้ำในโลกก็สูงขึ้น นี่คือปัญหาที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลง ภาวะโลกร้อน ครั้งนี้ที่ไทยโดนพายุเซินกาซึ่งไทยได้รับผลกระทบกว่า 35 จังหวัดโดย จ.สกลนคร ได้รับความเดือดร้อนมากที่สุด ตนจึงขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันทำงานหนัก ขอบคุณด้วยใจจริงจากตนและคณะรัฐมนตรี (ครม.)

“ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ก็ได้มีการแนวทางความห่วงใยให้เตรียมกันไว้ตามแนวทางของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานไว้กับเราถึงแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะโครงการจิตอาสาที่ทุกคนร่วมมือและช่วยเหลือกัน เห็นหรือไม่ว่าเราต้องร่วมมือกันจะแตกแยกกันไม่ได้จะด้วยการเมืองหรือเหตุผลอื่นก็แล้วแต่ เพราะเราต่างต้องช่วยเตรียมเพื่อเผชิญกับภัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้น้ำที่มาจากเทือกเขาภูพานมีมหาศาล ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูด้วยว่าป่าไม้บนเทือกเขาเป็นอย่างไร แล้วเมื่อน้ำลงมาก็มาดูกันว่าเราจะเก็บกักน้ำได้จำนวนเท่าไหร่ เมื่อเรากักเก็บน้ำได้น้อย น้ำลงมา 500 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่อ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นที่กักเก็บได้แค่ 240 ล้านลูกบาศก์เมตรก็คงรับไม่ไหวทำให้เอ่อล้นและระบายน้ำออกมา เมื่อการระบายไม่ทันกับน้ำที่ลงมามากและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ที่ราชการชี้แจงว่าเขารับไหวก็เพราะเขาคิดว่าฝนจะตกไม่มากขนาดนี้ พอมากขึ้นก็ต้องแก้ไขกัน เพราะฉะนั้นความเข้าใจของประชาชนจึงสำคัญเพราะเราต้องเตรียมการรับมือให้ได้ เมื่อเกิดปัญหาเราก็ต้องไปแก้ไขถึงโครงสร้างการบริหารจัดการน้ำการเกษตร น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ หากเราแก้ไขแบบเดิมก็เป็นแบบวัวหายล้อมคอก แต่วันนี้เราจะสร้างเขื่อนก็ยังลำบาก บางเขื่อนก็เก่าทำให้รับน้ำมากกว่านี้ไม่ได้เราก็เตรียมการไม่ทันเพราะเราติดปัญหาหลายอย่าง ทั้งสร้างเขื่อนอ่างเก็บน้ำก็ติดปัญหาที่ประชาชนทั้งหมด แต่หากรัฐบาลบังคับใช้กฎหมายเต็มที่ก็เดือดร้อนกันอีก

เมื่อเราจะปฏิรูปอะไรก็ติดที่ประชาชนทั้งหมด ดังนั้นเราต้องทำความเข้าใจประชาชนให้มากขึ้น สถานการณ์วันนี้เป็นเพียงตัวอย่างที่ทุกคนต้องเรียนรู้ วันนี้เราอาจจะยังพอรับได้แต่ถ้ามากกว่านี้เราต้องเตรียมตัว เช่นถ้าประชาชนไม่รู้ว่าส่วนราชการแจ้งมาเพราะอะไร เพราะเขาไม่เข้าใจตั้งแต่ต้น การสร้างความรับรู้นั้นสำคัญ เราต้องลงละเอียดแบบที่ตนพูด จากนั้นเมื่อเราแจ้งเตือนน้ำว่าถึงระดับไหนแล้วอันตรายแล้วหรือไม่ จะบอกว่ารับไหวตลอดนั้นไม่ได้ ซึ่งไม่ใช่การปัดความรับผิดชอบแต่เป็นการเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนทราบ พร้อมกับให้เขารู้ว่าเขาจะอยู่อย่างไร

นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้เราอยู่ในขั้นตอนการช่วยเหลือ ระบายน้ำ ต่อไปคือการฟื้นฟูช่วยเหลือระยะยาว รัฐบาลมีหลายมาตรการการเยียวยาออกมาทั้งจากกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการคลัง เราต้องทำให้รวดเร็วและต้องเร่งสำรวจพื้นที่ซึ่งอาจจะต้องใช้วิธีการประชาคมด้วยเดี๋ยวจะเกิดปัญหาการใช้จ่ายงบประมาณ ยืนยันว่าประโยชน์ต้องอยู่กับประชาชนเท่านั้น ส่วนประโยชน์ของรัฐบาลคือเราต้องมีเสถียรภาพทำให้สามารถดูแลประชาชนได้ อย่าให้ปัญหานี้ทำให้รัฐบาลมีปัญหา ต่อไปเมื่อมีน้ำท่วมเราก็มีปัญหาน้ำแล้งเพราะเราไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยรับสั่งไว้แล้วว่าไทยไม่ได้ขาดนี้แต่มีปัญหาเรื่องการกักเก็บน้ำต่างหาก อันนี้คงโทษใครไม่ได้

ทั้งนี้ ตอนตนขึ้นเครื่องบินมาที่นี่มองว่าเรามีปัญหาการใช้พื้นที่ เราต้องกำหนดให้ได้ว่าพื้นที่ไหนเป็นอย่างไร ตรงไหนเป็นที่ลุ่ม ที่ดอน ที่น้ำท่วม ที่แล้งซ้ำซาก ตรงไหนเป็นทิศทางน้ำ เราต้องทำใหม่ทั้งหมด ส่วนที่ตนจะให้งบประมาณเพิ่มเติมคือส่วนอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้น และเมื่อเราซ่อมแซมแล้วก็ต้องมีดูกันว่าจะสามารถกักเก็บน้ำได้เพิ่มหรือไม่จาก 240 ลูกบาศก์เมตร เป็น 300 ลูกบาศก์เมตร และเราก็ต้องไปดูว่าเขื่อนตื้นหรือไม่ เพราะมันตื้นทุกที่เนื่องจากเรายังไม่ได้ขุดลอก วันนี้เราไม่มีน้ำเลยต้องรอกักเก็บใหม่ ต้องรอฝนใหม่ ดังนั้นเมื่อเรากำลังซ่อมตรงนี้ก็ขอให้ขุดลอกส่วนอื่นๆ ให้ลึกเพื่อรองรับฝนใหม่ เดี๋ยวจะให้ทหารมาช่วยจะได้ทำเสร็จเร็วขึ้น แต่ไม่ได้มาแย่งงาน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนลำน้ำที่เราต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษคือลําน้ำก่ำและลำน้ำอูนเพราะเป็นแหล่งทีน้ำจะลงมา ก็ขอให้ไปดูด้วยว่าเราจะเพิ่มมาตรการกักเก็บน้ำได้อย่างไร วันนี้ในเมื่อเราทำใหม่ไม่ได้ก็ต้องใช้ของเก่าไปก่อนแต่ทำให้ดีขึ้น วันหน้าเราค่อยไปดูว่าจะแก้ไขอย่างไร ยืนยันว่าการออกกฎหมายไม่ได้หวังให้ประชาชนเดือดร้อน จึงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่จะชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ วันนี้ตนไม่ได้มาด้วยเรื่องการเมือง แต่มาด้วยความเป็นคนไทยและทหารเก่า

“วันนี้เราใช้เรื่องสูบน้ำเพื่อผลักดันน้ำถึง 40-50 เครื่อง ถามว่าหากเกิดขึ้นพร้อมๆ กันหลายจังหวัดเราจะมีเครื่องมือเพียงพอหรือไม่ ก็เดือดร้อนหมด แล้วขอร้องสื่อด้วยว่าอะไรที่ไม่ถึงกับคอขาดบาดตายอย่ามาโต้แย้งกันเลย ใช่เขื่อนแตกไม่แตก มันไร้สาระ เพราะมันเป็นเรื่องของน้ำเกินปริมาณที่เราจะรับได้ และขอให้เข้าใจว่าไม่ใช่แค่ จ.สกลนครที่น้ำท่วม จังหวัดอื่นก็ท่วม ประเทศอื่นก็ท่วมกันหมด เพราะมันเป็นมรสุม เป็นพายุมา จึงขอให้ทุกคนช่วยกันโดยใช้พระบารมีของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ ๙ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เราเป็นข้าราชการของพระองค์ท่านทุกพระองค์ต้องทำงานให้สมศักดิ์ศรี ข้าราชการทุกระดับต้องดูแลลูกน้องให้เยอะๆ ไม่ใช่ลูกน้องมาดูแลนาย ผมเลยไม่อยากมาไง เพราะมาก็ต้องมาดูแลนายกฯ อีก ผมก็เป็นข้าราชการเหมือนกับท่าน แต่ผมไม่ได้เล่นการเมือง อย่างผู้ว่าฯ คราวที่แล้วมาหน้าขาว มาวันนี้หน้าดำก็เข้าใจอาจเหนื่อย ถ้าไม่ดำล่ะมีเรื่อง เพราะคนทำงานจะหน้าขาวไม่ได้เพราะเราต้องอยู่กับประชาชน จะสบายมากล่ะมีเรื่อง เพราะเราต้องช่วยกันเหมือนนิ้วมือทั้งห้านิ้ว ฝากกำลังใจถึงพี่น้องชาวอีสานด้วย ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ทิ้งคนจน แต่ผมจะดูแลคนจนทั้งประเทศ ดูแลคนจนทุกจังหวัด แต่ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไปไม่เช่นนั้นก็จะเกิดความเหลื่อมล้ำได้ ขอให้เข้าใจ วันนี้ไม่ต้องชมชอบรัฐบาล แต่ขอให้ชมชอบประเทศของท่านก็พอ” นายกฯ กล่าว

จากนั้นเวลา 10:00 น.นายกฯพร้อมคณะได้เดินทางมายังครัวพระราชทานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรและเยี่ยมศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยที่บริเวณองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร โดยนายกรัฐมนตรีได้ให้กำลังใจกับผู้ปฏิบัติงานซึ่งมีทั้งจิตอาสา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร แพทย์ พยาบาลรวมทั้งได้ให้กำลังใจกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่เกิดขึ้น ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบถุงยังชีพและเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นด้วยโดยนายกรัฐมนตรีกล่าวตอนหนึ่งว่า สิ่งที่อยากจะให้กำลังใจคือ เราต้องอยู่ต่อไปให้ได้ รัฐบาลพยายามทำทุกอย่างให้เข้มแข็งและสมบูรณ์ขึ้น จะได้ไม่ต้องลำบากกันอีก เหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดในพื้นที่นี้ถือเป็นภัยธรรมชาติ ฉะนั้นอยากให้ทุกคนให้กำลังใจต่อกัน โดยเฉพาะครอบครัวที่ได้รับความสูญเสียถึงชีวิตจากการเข้าช่วยเหลือชาวบ้านจนจมน้ำตาย ตรงนึ้ถือเป็นการทำกุศลอย่างยิ่งยวดก่อนเสียชีวิตแต่เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น จึงอยากให้ระมัดระวัง และมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้ตนเป็นกำลังใจเสมอ

อย่างไรก็ตามในส่วนของพื้นที่ที่น้ำยังไม่ลด และทราบว่า บางบ้านแจกข้าวไปยังหุงไม่ได้เพราะแก๊สไม่มี ไฟฟ้ายังไปไม่ถึงจึงขอฝากผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยดูแลในส่วนนี้ด้วย โดยบางพื้นที่อาจจะต้องมีครัวโดยเฉพาะในชุมชนหรือท้องถิ่น ซึ่งต้องแก้ปัญหาในเชิงปฏิบัติให้ได้

“ผมขอแสดงความห่วงใยในนามของนายกรัฐมนตรี คณะรัฐบาล การที่ผมไม่ได้มาในตอนแรก เพราะทราบดีว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชน กำลังวุ่นวายกันอยู่และผมได้สั่งกานติดตามอยู่ตลอด จากปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้น ถือเป็นบทเรียนที่ให้รู้ว่าเราจะต้องอยู่กับธรรมชาติอย่างไร มันอาจจะไม่เกิดครั้งนี้ครั้งเดียว แม้เราไม่อยากให้เกิดอีก แต่มันก็อาจจะเกิดขึ้น เพราะโลก มันเปลี่ยนแปลง ดัวนั้นเราต้องพัฒนาตัวเองด้วย ต้องเรียนรู้ว่าจะอยู่กับธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอย่างไร ในอนาคตโลกจะร้อนหรือน้ำจะน้อ เพราะฝนแล้งมันหรือน้ำจะมาก มีโอกาสที่จะเกิดได้ทั้งคู่ วันนี้ภัยธรรมชาติถือเป็นสิ่งอันตราย มากกว่าอย่างอื่นทั้งสิ้น

ฉะนั้นเราต้องไม่มีความขัดแย้งในช่วงนี้เพื่อที่จะช่วยรัฐบาลในการฟื้นฟูแก้ปัญหาทั้งหมด โดยตอนนี้เราอยู่ในขั้นการช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน หลังจากนี้จะเป็นเรื่องของมาตรการฟื้นฟู ต้องดูเรื่องบ้าน ถนนหนทางหลายๆเรื่องที่เป็นปัญหาในเชิงสาธารณประโยชน์ เราต้องเตรียมความพร้อมอย่าไปคิดว่าเราอยู่มาจนอายุแก่ขนาดนี้แล้วเรื่องเหล่านี้จะไม่เกิด วันนี้จะคิดแบบนี้ไม่ได้ ต้องฟังคำเตือนคำชี้แจงจากภาครัฐ ผมขอเป็นกำลังโดยรัฐบาลได้นำ พระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใย พระราชทานให้รัฐบาลม าด้วย ก็ขอให้ระลึกถึงสถาบัน และช่วยรัฐบาลในการทำงาน ขอบคุณทุกคนขอให้มีกำลังใจที่ดีขึ้น ทุกอย่างจะผ่านพ้นได้ด้วยใจของเรา ด้วยจิตอาสา ด้วยความร่วมมือรับฟังซึ่งกันและกัน ทุกอย่างจะไปได้หมด ผมไม่มาหลอกลวงอะไรทั้งสิ้นแต่จะมาช่วยประชาชน”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

จากนั้น นายกฯได้ร่วมโครงการ บิ๊ก คลีนนิ่งเดย์ “ยอมบ้าน หลังเมือง”ที่บริเวณด้านหน้าวัดพระธาตุเชิงชุมโดยนายกรัฐมนตรีได้ให้กำลังใจกับกลุ่มจิตอาสาและให้กำลังใจกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้ร่วมฉีดน้ำและกวาดถนน ในโครงการบิ๊กคลีนนิ่งก่อนที่นายกตรีจะเข้าไปกราบองค์พระธาตุเชิงชุมเพื่อเป็นศิริมงคล

ทั้งนี้นายกฯกล่าวว่าดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของประชาชนหลังจากที่ทุกคนได้ผ่านเหตุการณ์ต้องกลับไทยที่ผ่านมาก็ขอให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกันในการแก้ไขปัญหาทุกๆเรื่องแล้วทุกอย่างก็จะประสบผลสำเร็จทั้งนี้ตลอดสามปีที่ผ่านมาสิ่งที่รัฐบาลชุดปัจจุบันจะแก้ไขก็คือทำให้ทุกคนได้มีความรักความสามัคคีไม่เกิดความขัดแย้งจนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน นายกฯกล่าวย้ำว่าเราจะต้องไม่เพิ่มความขัดแย้งและรัฐบาลชุดนี้ก็ไม่ได้เป็นหนึ่งในความขัดแย้งของใครเข้ามาเพื่อทำหน้าที่บริหารบ้านเมืองและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเท่านั้น

ต่อมาเวลา 11.10 น.นายกฯพร้อมคณะลงเรือเยี่ยมประชาชนที่ประสบอุทกภัยในเขตพื้นที่ชุมชนรอบหนองหารก่อนเดินทางไปยังจุดติดตั้งสะพานแบร์รี่ย์เพื่อตรวจสอบสะพานภายหลังถูกน้ำกัดเซาะ จากนั้นจะเดินทางไปยังอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นเพื่อดูสภาพพื้นที่และการซ่อมแซม รวมถึงการแก้ไขปรับปรุงอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นที่ถูกน้ำกัดเซาะ พร้อมรับฟังคำอธิบายจากอธิบดีกรมชลประทาน

“บิ๊กตู่” ขอ ปชช.ระลึกถึงสถาบันฯ ย้ำทรงรับสั่งแก้น้ำท่วมยั่งยืน แนะเรียนรู้รับมือภัยธรรมชาติ