วันนี้ (30 มี.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศ เรื่องเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ว่า
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ฝ่ายหน้า และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลอื่น เนื่องจากนายทักษิณ ชินวัตร ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาถึงที่สุดลงโทษจำคุก และยังมีข้อหาฐานอื่นๆ อีกหลายคดี อีกทั้งได้หลบหนีออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งเป็นพฤติการณ์การกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เรียกคืน เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ฝ่ายหน้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก ประถมาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นมหาวชิรมงกุฎ ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นปฐมดิเรกคุณาภรณ์ และเหรียญลูกเสือสดุดี ชั้นที่ ๑ ของนายทักษิณ ชินวัตร
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม พุทธศักราช 2562
ทั้งนี้ เมื่อ 28 มีนาคม 62 ที่ ลานเอนกประสงค์กองทัพภาคที่ 1 ภายในกรมทหารราบที่ 11 กรมทหารมหาดเล็ก ราชวัลลภรักษาพระองค์ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะผู้บัญชาการคณะผู้บัญชาการทหาร นำ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ
ล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผู้บัญชาการทหารอากาศ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพลเอกณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะที่ปรึกษาคณะผู้บัญชาการทหาร ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวล ด้านจุดยืนกองทัพต่อสถานการณ์หลังการเลือกตั้ง และ กรณีถอดถอนการเป็นศิษย์เก่าดีเด่นของ ทักษิณ ชินวัตร
โดย พล.อ.พรพิพัฒน์ เปิดเผยว่า เรื่องกองทัพต่อสถานการณ์หลังการเลือกตั้ง ยืนยันสนับสนุนให้คนดีปกครองบ้านเมืองตามพระบรมราโชวาท แต่หากพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือจัดตั้งรัฐบาลก็พร้อมทำงานกับทุกรัฐบาลส่วนสาเหตุ ถอดถอนการเป็นศิษย์เก่าดีเด่นของ ทักษิณ ชินวัตร และเรียกคืนรางวัลเกียรติยศจักรดาว เหตุเพราะ รางวัลเกียรติยศจักรดาวเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศดังนั้นผู้รับจะต้องรักษาเกียรตินั้นไว้ให้ได้ หากมีข้อมูลใดที่ผู้นั้นไม่สามารถที่จะรักษาเกียรตินั้นไว้ได้ เราก็ต้องเรียกคืน
ทั้งนี้ พล.อ.พรพิพัฒน์ ยังกล่าวอีกว่า ผมเชื่อว่าพี่น้องประชาชน ก็รู้ดิว่าเหตุผลคืออะไร ได้เห็นทั้งในเว็บไซต์ ในโซเชียลต่างๆ แต่สิ่งหนึ่งที่รบกวนจรรยาบรรณของทหาร และหลักนิยมทหาร ถ้ามีการจับจ้วงและไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำ ก็ถึงเวลาที่เราต้องตัดสินใจ ส่วนการที่ต้องดำเนินการในช่วงนี้นั้นเพราะเมื่อเราพบว่ามีอะไรสมควรที่ต้องดำเนินการ ก็ตัองดำเนินการให้จบขั้นตอน แต่ไม่ได้ต้องการให้ส่งผลกระทบใดๆต่อการเมือง
ผมเชื่อว่าคนไทยทุกคน ก็รู้ดิว่าเหตุผลคืออะไร ได้เห็นทั้งในเว็บไซต์ ในโซเชียลต่างๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ รบกวนจรรยาบรรณของทหาร และหลักนิยมทหาร ถ้ามีการจับจ้วง และไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำ ก็ถึงเวลาที่เราต้องตัดสินใจ ไม่รู้จักที่สูง ที่ต่ำ
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/B/008/T_0001.PDF