สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2560 ว่า การกวาดล้างฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของสมเด็จฮุน เซน ที่ครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรียาวนานที่สุดในโลกในปัจจุบัน นำไปสู่การยุบพรรคกู้ชาติกัมพูชา (ซีเอ็นอาร์พี) พรรคฝ่ายค้านหลัก และควบคุมสื่ออิสระบางส่วน ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประเทศผู้บริจาคตะวันตก
ฮุน เซน กล่าวในระหว่างการพบปะกับแรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า เมื่อวันอาทิตย์ ว่า ศูนย์สิทธิมนุษยชนกัมพูชา (ซีซีเอชอาร์) ต้องถูกปิด เพราะก่อตั้งโดยชาวต่างชาติ ไม่ใช่ชาวกัมพูชา กระทรวงมหาดไทยควรเข้ามาดำเนินการในเรื่องนี้ และว่า ฝ่ายค้านกัมพูชาเหมือน “เด็ก” ของสหรัฐ ซึ่งเขาได้พูดเรื่องนี้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ในระหว่างการพบปะกัน ในงานประชุมสุดยอดเอเปก ที่ประเทศเวียดนาม ช่วงต้นเดือนนี้
ซีซีเอชอาร์ก่อตั้งโดยนายเกิม สุขา เมื่อปี พ.ศ. 2545 ก่อนที่เขาจะคืนสู่อาชีพนักการเมืองในปี 2550 เกิมถูกตำรวจจับกุมเมื่อวันที่ 3 ก.ย. และถูกตั้งข้อหากบฏ ตามข้อกล่าวหาวางแผนล้มล้างอำนาจรัฐบาล ด้วยความช่วยเหลือจากสหรัฐ และพรรคซีเอ็นอาร์พีของเกิมถูกศาลฎีกาสั่งยุบเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ตามคำร้องขอของรัฐบาล
เกิมปฏิเสธข้อกล่าวหา ซึ่งฝ่ายค้านกล่าวว่าเป็นแผนกำจัดศัตรูทางการเมือง เพื่อรับประกันการครองอำนาจนานกว่า 3 ทศวรรษของฮุน เซน จะขยายออกไปอีก ในการเลือกตั้งทั่วไปกลางปีหน้า
กลุ่มประเทศตะวันตกโจมตีการกวาดล้างทางการเมืองในกัมพูชา รัฐบาลสหรัฐประกาศระงับการให้เงินทุนจัดการเลือกตั้ง ส่วนสหภาพยุโรป (อียู) เพื่มความเป็นไปได้ที่จะตัดสิทธิพิเศษทางการค้าแก่กัมพูชา หากไม่เคารพสิทธิมนุษยชน
ฮุน เซน ไม่สนใจเสียงวิจารณ์จากตะวันตก เนื่องจากผู้บริจาครายใหญ่สุดของกัมพูชาในปัจจุบันคือจีน ซึ่งประกาศสนับสนุนมาตรการของกัมพูชา เพื่อรับประกันเสถียรภาพของประเทศ.
… อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/foreign/612478