เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว (10 เมษายน พ.ศ.2562 )ประเทศไทยก็ได้มีเหตุการณ์อุบัติเหตุ เพลิงไหม้ที่ ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ซ้ำรอยครบรอบ เหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ อันเป็น จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ เผาบ้านเผาเมือง ช่วงพฤษภาคม พ.ศ. 2553 พอดิบพอดี โดยครั้งนั้น ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ถูกวางเพลิงจนเสียหาย ไฟได้ทำลายตัวอาคารประมาณ 1 ใน 3… แม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าว จะเป็นการวางเพลิงทางการเมือง และ เป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ก่อการร้าย …ซึ่งมีการปลุกระดมจากนอกประเทศ ที่โยงไปถึงกลุ่มล้มล้างสถาบันเบื้องสูง
แต่เหตุเพลิงไหม้ ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อปี 2553…กลับทำให้หลายคนที่มีความเชื่อเรื่อง อาถรรพ์ ก็มองตีความกันไปต่างๆนาๆว่า เป็นคำสาป “วังเพ็ชรบูรณ์”
ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะ เห็นว่า นายไพศาล พืชมงคล นักโหราศาสตร์การเมือง เล่าเป็นตุเป็นตะเอาไว้ ว่า ที่ดินของเซ็นทรัลเวิลด์ มีการสาปแช่งจากเจ้าของเก่า คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย ที่ทรงไม่อยากให้ผู้ที่ได้ครอบครองที่ดินผืนนี้เป็นผู้อื่นที่ไม่ใช่ลูกหลาน จึงทำการสาปแช่งเอาไว้
แต่ ม.ร.ว.สุนิดา กิติยากร ธิดาของ ม.จ.สุวินิต กิติยากร กับ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธสิริโสภา ซึ่งเป็นหลานของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย เจ้าของวังเพ็ชรบูรณ์ ที่เคยเป็นเจ้าของที่ดินผืนดังกล่าว ได้กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวโดยตอนหนึ่งระบุถึงพินัยกรรมในประวัติศาสตร์ ว่า ล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ทรงดูแลพินัยกรรมทายาท ของสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑาธุช ซึ่งสิ้นพระชนม์เมื่ออายุ 31 และ “ไม่มีคำไหนที่เป็นคำสาปแช่ง อีกประการหนึ่ง เทวรูปฮินดูทั้งปวง ทูลหม่อมจุฑาธุชฯ มิได้เป็นคนสร้าง ไม่เคยมีในวังเพชรบูรณ์”
ก็ไม่รู้นะว่า นายไพศาล พืชมงคล เป็นใครไปอยู่ในวันเปิดพินัยกรรมได้อย่างไร?
งานนี้ชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ที่เชื่อเรื่องลี้ลับ อาถรรพ์ คงหลับหูหลับตาเชื่อกันเป็นตุเป็นตะ เอาไปลือเลี่องพิศดารไปมากแล้วกระมั้ง?
………………………..
หากพูดถึง สถานที่ทางประวัติศาสตร์และเพลิงไหม้ … วันนี้คงไม่พูดถึงอีกสถานที่นึงไมได้ก็คือ เหตุการณ์ เพลิงไหม้วิหารนอร์ทเทอร์-ดาม กรุงปารีส เมื่อเย็นวันจันทร์ที่ 15 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียเชิงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ประเมินค่าไม่ได้จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่วิหารนอร์ทเทอร์-ดามครั้งนี้…
หลายคน ออกปากเสียดายที่ไม่ได้ไปเที่ยวชมก่อนที่เกิดเพลิงไหม้ นั่นไม่ต้องแปลกใจ เพราะ วิหารนอร์ทเทอร์-ดาม เป็นโบสถ์ คริสต์นิกายคาทอลิกซึ่งป็นที่ตั้ง คาเทดราของอาร์ชบิชอปแห่งปารีส ถือกันว่าเป็นโบสถ์ที่สวยงามที่สุดในลักษณะกอทิกแบบฝรั่งเศส มีอายุมากว่า 800ปี โดย เริ่มต้น สร้างครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ. 1163 นั้นเอง
วิหารนอร์ทเทอร์-ดาม ถูกระบุเป็นมรดกโลก จากยูเนสโก เนื่องจากความสวยงามและคุณค่าทาง ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก
วิหารนอร์ทเทอร์-ดามที่ดูสวนงามที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมมากมาย ขนาดคนต่างชาติอย่างเราคนไทยยังเห็นคุณค่านั้น ในอดีต ปี ค.ศ .1793 ช่วงเวลาในเหตุการณ์ปฎิวัติฝรั่งเศส วิหารนอร์ทเทอร์-ดามเคยถูกทำลาย โดย นักปฎิวัติกลุ่มฌากอแบ็ง ที่นำโดย มากซีมีเลียง รอแบสปีแยร์ (Maximilien Robespierre,) นำประชาชนเข้ามาทุบทำลายวิหารนอร์ทเทอร์-ดาม อันเป็นวิหารคู่ปารีสและเป็นสัญลักษณ์เคียงข้างสถาบันกษัตริย์ของฝรั่งเศส (ถ้าเปรียบเทียบก็เหมือน วัดพระแก้วของไทยนั้นแล)
ในภายหลังปฎิวัติฝรั่งเศส สำเร็จ โดย มากซีมีเลียง รอแบสปีแยร์จับพระเจ้าหลุยที่16, ราชินี เจ้าฟ้าอีกหลายคน รวมทั้งพระสงฆ์จากศาสนจักร และสมาชิกในสภาฐานันดร มาประหารด้วยการตัดหัวที่เครื่องกิโยตินต่อหน้าสาธารณชน แล้วตั้ง ระบอบการปกครองรูปแบบใหม่ขึ้นมา มีการสภากงว็องซียงแห่งชาติ(คณะปกครอง)ตั้งศาลปฏิวัติ (Revolutionary Tribunal) และออกกฏหมายให้เลิกนับถือคริสต์ศาสนา เลิกใช้คริสต์ศักราช แต่ใช้ศักราชปฏิวัติ นับปี ค.ศ. 1793 เป็นปีที่ 1 และก่อตั้งลัทธิใหม่โดยใช้ชื่อว่า ลัทธิแห่งเหตุผล (Cult to Reason) นับถือเทพธิดาแห่งเหตุผล อันเป็นลัทธิที่ยึดโยงเทวนิยมกับแนวคิดตรรกะทางวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกัน และยึดโยงกับผู้นำสูงสุด
วิหารนอร์ทเทอร์-ดาม ที่เสียหายถูกปรับเปลี่ยน เป็น “วิหารแห่งเหตุผล” (Temple of Reason) เพื่อใช้สักการะเทพธิดาแห่งเหตุผล อันเป็นแนวคิดที่ยึดโยงกับระบอบใหม่ที่พึ่งสร้าง
แต่ต่อมา ผู้นำลัทธิแห่งเหตุผล และผู้นำนักปฎิวัติ อย่าง นาย มากซีมีเลียง รอแบสปีแยร์ (Maximilien Robespierre,) ถูกโค่นล้มและถูกประหารชีวิตเนื่องจาก ความโหดร้ายในสมัยแห่งความน่าสะพรึงกลัว (Reign of Terror ) ที่เขา ออกกฏหมาย “Law of Suspects”ไล่สังหารผู้ที่มีแนวโน้มจงรักภักดีต่อระบอบเก่า(ระบอบกษัตริย์)
หลังพ้นยุคสมัยแห่งความน่าสะพรึงกลัว (Reign of Terror ) จากนั้นมา วิหารนอร์ทเทอร์-ดาม จึงได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 19 จนสมบูรณ์ และกลายเป็นมรดกโลกที่คนทั่วโลกจดจำ
เพลิงไหม้ที่ลุกโหมอย่างไม่รู้สาเหตุ….ของวิหารนอร์ทเทอร์-ดาม วานนี้ …ทำให้ชวนหวนถึงวันที่เลวร้ายในยุคสมัยแห่งความน่าสะพรึงกลัว (Reign of Terror ) เสียเหลือเกิน
นี่ก็พึ่งพูดถึง ปิยบุตร และกลุ่มนิติราษฎร เรื่องที่เขาโจมตีสถาบันกษัตริย์ของไทยเมื่อปี 2556 โดยอ้างวาทะกรรมของนาย หลุยส์ อ็องตวน เดอ แซ็ง-ฌุสต์ ไปเมื่อ วันที่ 3 เมษายน 2562นี้เอง
หากต้องการอ่าน เรื่อง วาทะกรรมที่ปิยบุตร อ้างมาจาก นาย หลุยส์ อ็องตวน เดอ แซ็ง-ฌุสต์ โปรดอ่านตามลิ้งค์นี้
(https://www.facebook.com/siamgreatwarriors/posts/2098980387077641?__tn__=K-R)
หากต้องการอ่านรายละเอียดแนวคิด การปฎิวัติฝรั่งเศสอันเป็นต้นแบบของการก่อการของคณะราษฎรแล้ว โปรดอ่านตามลิ้งค์นี้
(https://www.facebook.com/…/a.14031569966…/1533003727008646/…)
……………………………………………………………………….
พออ่านมาถึงตรงนี้ ก็พอจะ ร้องอ๋อ! ว่าทำไม ในเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง ปี พ.ศ. 2553 ของไทย … ถึงมีคนเสื้อแดงที่ที่นิยม”ปฎิวัติฝรั่งเศส”หัวรุนแรง เอา “อาพีจี” ไปยิงวัดพระแก้ว! แต่ เหมือนปาฎิหารย์ยังมี … ยิงไม่ถูกวัด แต่พลาด ถูกกระทรวงกลาโหม…
อ้างอิง https://hilight.kapook.com/view/48198
……………………………………………..
ไฟที่ลุกโชน…วิหารนอร์ทเทอร์-ดาม … ในปัจจุบัน เป็นเพียงอุบัติเหตุหรือไม่ยังไม่มีใครทราบ…
แต่ความเสียหายในอดีตของวิหารนอร์ทเทอร์-ดาม ก็ทำให้หวนถึงควันไฟที่ ราชประสงค์ เสียเหลือเกิน …
