เมื่อ 5 ก.ย. 2560 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศยุติโครงการ “ดรีมเมอร์” ซึ่งมีขึ้นในสมัยรัฐบาลโอบามาปี 2012 เพื่อคุ้มครองผู้ลี้ภัยที่เข้าสหรัฐฯ โดยผิดกฎหมายเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก โดยอนุญาตให้เด็กที่เข้าสหรัฐฯ ก่อนอายุ 16 ปีบริบูรณ์สามารถยื่นขอพำนักอยู่ในสหรัฐฯ ได้ชั่วคราว พร้อมให้สิทธิ์ด้านการทำงานในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการมาจนปัจจุบัน มีผู้ยื่นเอกสารขออนุมัติในโครงการดังกล่าวเกือบ 800,000 ราย ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการประกาศยุติโครงการของทรัมป์
การประกาศยุติโครงการส่งผลให้เหล่า “ดรีมเมอร์” ซึ่งปัจจุบันนี้โตเป็นผู้ใหญ่แล้วรวมตัวกันมาประท้วงที่หน้าตึกทรัมป์ทาวเวอร์ นครนิวยอร์ค ก่อนจะถูกตำรวจพาออกไปโดยใส่กุญแจมือ
แต่นอกจากนี้ บรรดาผู้นำทางศาสนาและธุรกิจ นายกเทศมนตรี ผู้ว่าการรัฐ นักกฎหมาย สหพันธ์ต่างๆ นักเคลื่อนไหวเพื่อเสรีภาพของพลเมือง รวมทั้งอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ต่างพร้อมใจกันออกมาคัดค้านการยุติโครงการดังกล่าวและปกป้องผู้ที่อยู่ใต้โครงการ
การยุติโครงการดรีมเมอร์ประกาศโดยเจฟฟ์ เซสชันส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งกล่าวว่าโครงการดรีมเมอร์ หรือชื่อทางการคือ “การยื่นขอผ่อนผันเพื่อพำนักในประเทศชั่วคราวสำหรับการเข้าเมืองตั้งแต่วัยเด็ก” (Deferred Action for Childhood Arrivals – DACA) เป็นนโยบายของโอบามาที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ต่อมา ทรัมป์เองได้ออกแถลงการณ์ว่า “ผมไม่ได้โปรดปรานการลงโทษเด็กเนื่องด้วยการกระทำของผู้ปกครอง ซึ่งตอนนี้เด็กๆ โตเป็นผู้ใหญ่เกือบหมดแล้ว แต่เราต้องตระหนักว่าเราเป็นประเทศแห่งโอกาสเพราะว่าเราเป็นประเทศที่ปกครองด้วยกฎหมาย”
ทรัมป์ประณามว่าโครงการของโอบามาเป็นวิธีแบบ “การนิรโทษกรรมมาก่อน” เพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยผิดกฎหมายและกดทับเสียงของบรรดากลุ่มคนผู้รักชาติที่ต้องการให้ “ชาวอเมริกันมาก่อน” พร้อมกล่าวว่าก่อนจะห่วงชะตากรรมของเหล่า “ดรีมเมอร์” เหนือสิ่งอื่นใดเราต้องตระหนักว่าเด็กชาวอเมริกันก็มีความฝันเช่นกัน
ฝ่ายโอบามาก็ออกแถลงการณ์ของตนเอง โดยกล่าวว่าการกระทำของทรัมป์เป็นการตัดสินใจที่มีนัยยะทางการเมือง และปกป้องความชอบด้วยกฎหมายของโครงการ DACA พร้อมกระตุ้นให้สภาคองเกรสปกป้องเหล่า “ดรีมเมอร์”
“นี่เป็นเรื่องของเยาวชนที่เติบโตขึ้นในอเมริกา เรื่องของเด็กๆ ที่เข้าเรียนในโรงเรียนของเรา เรื่องของเยาวชนที่กำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่และกำลังเริ่มประกอบอาชีพ และเรื่องของคนรักชาติซึ่งแสดงความจงรักภักดีต่อธงชาติของเรา ดรีมเมอร์เหล่านี้เป็นชาวอเมริกันในหัวใจของพวกเขา เป็นอเมริกันในจิตวิญญาณของพวกเขา และเป็นชาวอเมริกันในทุกๆ ด้านยกเว้นเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น นั่นก็คือในทางเอกสาร” โอบามากล่าว
อย่างไรก็ดี คณะทำงานของทรัมป์เผยว่าได้เลื่อนการบังคับใช้นโยบายยุติโครงการออกไปอีก 6 เดือน และส่งให้สภาคองเกรสพิจารณา ดังนั้นก่อนวันที่ 5 มีนาคมจะยังไม่มีใครที่อยู่ในโครงการได้รับผลกระทบ