เมื่อปี ๒๕๑๔ อาจารย์หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้เล่าเรื่อง
ที่ ท่านประทับใจจากการ ที่ ท่านได้ไปดูภาพยนต์เรื่องหนึ่งไว้ใน
หนังสือพิมพ์สยามรัฐ คอลัมภ์สยามรัฐหน้า ๕ ฉบับลงวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๑๔
*********************************************
ท่านเล่าให้ฟังว่า ความประทับใจนั้นไม่ได้เกิดจาก เนื้อหา หรือ ดารา
ใน ภาพยนต์ เรื่องนั้น … หากแต่เกิดจากคนที่มาดูหนังคนหนึ่ง
ผู้หญิงไทยตัวเล็กเล็ก ซึ่งมากับฟารั้งตัวอ้วนอ้วนพอเห็นก็รู้ว่า
เธอมีอาชีพอย่างไหน … จะต้องกราบขอโทษผู้หญิงคนนั้นไว้เสียก่อนว่า
พอมองปราดเดียวก็รู้ว่าก็รู้ว่าเธอมีอาชีพที่จะต้องเรียกสุภาพที่สุดว่า
“เมียเช่า” แต่ไม่ได้เช่านานนาน เช่าเพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น
*********************************************
เหตุการณ์สำคัญมาเกิดขึ้นตอนหนังจบ เมื่อหนังจบฟารั้งก็ลุกขึ้นยืน
จะรีบกลับไม่ยืนรอเคารพพระบรมรูป และ เพลงสรรเสริญพระบารมี
แต่ผู้หญิงไทยคนนั้นไม่ยอมลุกขึ้นด้วยนั่งเฉยเสีย ฟารั้งจึงลงนั่งใหม่
พูดออกไม้ออกมือว่าจะนั่งรอไปทำไม ผู้หญิงไทยส่ายหัวดิก
แล้วตอบเป็นภาษาฟารั้งกระท่อนกระแท่นว่าจะรอเคารพพระบรมรูป
ฟารั้ง ไม่เข้าใจเลยออกเสียงดังเอะอะบอกว่า เสียเวลา
ผู้หญิงไทยตอบกลับอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “My King” ในหลวงของฉัน
ฟารั้งนิ่งเหมือนถูกทุบ อึดใจเดียวทางโรงภาพยนต์ก็ฉายพระบรมรูป
และ เสียงเพลงสรรเสริญพระบารมีก็ดังขึ้น ผู้หญิงคนนั้นยืนตรงอย่างภาคภูมิ
ตาจ้องไปที่พระบรมรูปจนเสียงเพลงสรรเสริญหยุดลง
ความเป็นไทย เอกราชของชาติไทย เกียรติภูมิของคนไทย
ความจงรักภักดี ทุกอย่างปรากฏต่อหน้าต่อตาผมขณะนั้น
*********************************************
คนเรานั้นเกิดมาชาติหนึ่งจะใช้มือ ใช้เท้า หรือ อวัยวะอื่นใด
ทำมาหากินก็เป็นเรื่องของแต่ละคน แล้วแต่โชควาสนา
ผม เห็นมาหลายคนแล้วควรค่าแก่การเคารพก็มากมาย
แต่ความเคารพในเกียรติของผู้หญิงที่ถูกสังคมดูหมิ่นคนนั้น
เกิดขึ้นเพราะเกียรติของเธอคือความเป็นไทย … ความเป็นไทยที่
ปู่ยาตายายของเธอและของผมได้ช่วยกันรักษาร่วมกันมา
จนถึงทุกวันนี้ … ความเป็นไทยที่ทำให้ชนชาติอื่นต่องยำเกรง
และ ความเป็นคนไทยที่ทำให้คนไทยคนที่เป็นคนไทยด้วยกัน
ต้องเคารพอย่างสูงสุดต้องตื้นตันใจเมื่อได้ประสพพบเห็น
ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
*********************************************