สำนักข่าวซินหัว รายงานว่าอดีตนักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารโลกระบุจีนจะกลายเป็น “ประเทศรายได้สูง” ภายในปี 2025 และ “มหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลก” ภายในปี 2030
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า นายหลิน อี้ฟู อดีตรองประธานอาวุโสและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารโลก (World Bank) กล่าวเมื่อวันจันทร์ (21 ม.ค.) ว่าจีนจะกลายเป็น “ประเทศรายได้สูง” (high-income country) ภายในปี 2025 และ “มหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลก” ภายในปี 2030
คำกล่าวดังกล่าวเกิดขึ้นในการประชุม “สภาพเศรษฐกิจยุคใหม่ของจีน” (The Economics of China’s New Era) ซึ่งจัดโดยศูนย์วิจัยสถาปัตยกรรมทางการเงินอันยั่งยืนในยุโรป (SAFE) หลินกล่าวว่า “หลังจากเติบโตอย่างน่ามหัศจรรย์มานาน 40 ปี จีนยังคงมีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจขนาดมหึมา”
มุมมองเชิงบวกของหลินมาจากข้อเท็จจริงว่าจีดีพีต่อหัว (GDP per capita) ของจีนในปี 2008 คิดเป็น 21 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีต่อหัวของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสัดส่วนเดียวกันกับของญี่ปุ่นในปี 1951, สิงคโปร์ในปี 1967, ไต้หวันในปี 1975 และเกาหลีใต้ในปี 1977
หลินกล่าวว่าทุกประเทศที่กล่าวถึงข้างต้นมีการเติบโตทางเศรษฐกิจ 8-9 เปอร์เซ็นต์ต่อปีเป็นเวลาอีก 20 ปี และ “จีนก็มีศักยภาพการเติบโตราว 8 เปอร์เซ็นต์ตลอด 10 ปีข้างหน้า” แม้เผชิญความท้าทายภายนอกอย่างลัทธิปกป้องการค้าและสงครามการค้าที่อาจบั่นทอนการเติบโต
อย่างไรก็ดี หลินชี้ว่าด้วยสถานะเศรษฐกิจขนาดใหญ่และประเทศรายได้ปานกลาง จีนจะเปิดกว้างต้อนรับการลงทุนผ่านโครงการก่อสร้างและการพัฒนาโครงสร้างขั้นพื้นฐานภายในประเทศ รวมถึงสานต่อการ “ปฏิรูป” เชิงลึกต่อจากอดีตสู่ยุคใหม่ต่อไป