“จอน อึ๊งภากรณ์” เป็น “NGO ตัวพ่อ”
สังคมมุ่งดี-ใฝ่สงบ ไม่ให้ราคาและไม่สนใจจะรู้จักมากนัก
แต่ให้เกียรติ…..
ในฐานะลูกชาย “อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์” ผู้เป็นมือขวาจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ปฏิรูปประเทศ
อาจารย์ป๋วยท่านวางรากฐานระบบการเงิน-การคลังและการงบประมาณให้ประเทศสู่ “มาตรฐานโลก”
ใน “ครึ่งศตวรรษ” ที่ผ่านมานี้…..
ยังไม่มีผู้ใด แยกแยะ-เข้าใจ “สังคมเป็นจริง” และอุทิศตนเข้าไปอยู่ในจุดนั้น
แล้วทุ่มพลังกาย-พลังใจ สรรค์สร้างทางก้าวหน้าให้สังคมชาติ เท่าอาจารย์ป๋วย
อาจารย์ป๋วย เกลียดอำนาจเผด็จการสฤษดิ์
เท่ากับจอมพลสฤษดิ์ อยากฆ่าอาจารย์ป๋วย!
แต่ลงท้าย….
คน ๒ ขั้ว “ต่างคน-ต่างปณิธาน” กลับมาร่วมอำนาจ-ร่วมงานสร้างบ้าน-สร้างเมืองด้วยกัน จนได้ชื่อว่า “ผู้บุกเบิก”
เริ่มปฐมยุค “ด้านเศรษฐกิจและการพัฒนา” ในโลกระบบทุนของไทย!
อาจารย์จอน ปีนี้ ก็ ๗๐ กว่าแล้ว…..
ผมมั่นใจ คงได้ศึกษาประวัติชีวิตงานบิดาท่านช่วงสัมพันธ์กับจอมพลสฤษดิ์มาบ้าง ไม่มากก็น้อย
ในส่วนน้อย ก็คงได้อ่าน “เหลียวหลัง แลหน้า” หนังสืออัตประวัติท่านบ้างหรอก
“ภาษาไทย” อ่านออกกระมัง?
เมื่ออ่าน ก็ต้องทราบ เผด็จการกับประชาธิปไตย แค่เสื้อที่ใส่
“เนื้อแท้” ที่ต้องบริหาร คือ “เนื้อใน” อันเป็นเนื้อใจ ไม่ใช่เนื้อผ้า
เข้าใจตรงนี้ ก็ย่อมเข้าใจ…..
ว่าทำไม “สฤษดิ์-ป๋วย” จากศัตรู จึงกลับมาเป็น “คู่สร้าง” กันได้ เหตุผลเดียว คือ……
“ต่างหนทางที่มา” แต่ “ร่วมทางในที่จะไป”!
สุดท้าย เมื่อได้ร่วมงานกัน อาจารย์จอนคงทราบ พอจอมพลสฤษดิ์อสัญกรรม เมื่อปี ๒๕๐๖
บิดาท่านอาลัยนัก ถึงกับร่ายกลอนเป็นสุนทรพจน์ ระบายความรู้สึกที่มีต่อจอมพลสฤษดิ์ กลางงานเลี้ยงสมาคมธนาคารไทย เมื่อปี ๒๕๐๗ ตอนหนึ่ง ว่า……
ค่ำวันนี้มีใจใคร่ประหวัด
ถึงจอมพลธนะรัชต์นาถา
ที่ประธานกรรมการท่านเป็นมา
หลายธนาคารใหญ่มีไมตรี
ท่านมีคุณหนุนนานฐานนายกฯ
ได้ป้องปกเสริมสร้างวางวิถี
ร่างกฎหมายธนาคารมานานปี
กฎหมายดีก็เพราะท่านบันดาลดล
ขอตั้งจิตอธิษฐานให้ท่านสงบ
ในสัมปรายิกภพสพกุศล
ขอพระคุณบุญนำล้ำพิมล
สุขเกษมเปรมกมลนิรันดร
สิ้นสฤษดิ์สิทธิล้ำผู้นำรัฐ
ผู้เจนจัดยอดทหารชาญสมร
ฯพณฯถนอมจอมพิชิตกิตติขจร
เป็นบวรอัครมหาเสนาบดี
ท่านเลื่องชื่อลือเลิศเทอดสุจริต
ท่านประดิษฐ์ถ้อยคำนำศักดิ์ศรี
มอบแด่ไทยไพร่ฟ้าประชาชี
“จงทำดี จงทำ ดีจงทำ”….ฯลฯ…….
เห็นมั้ย…อาจารย์จอน
บิดาท่าน ร่วมทำงานกับนายกฯ เผด็จการถึง ๒ คน คือทั้งจอมพลสฤษดิ์และจอมพลถนอม
ก็เป็นบทพิสูจน์อย่างหนึ่ง “ดี-ชั่วอยู่ที่ตัวคนทำ” ไม่ได้อยู่ที่ชื่อว่าเผด็จการหรือประชาธิปไตย
เมื่อวาน (๑๕ ม.ค.๖๑) อาจารย์ใต้หมวก “ผอ.โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์)”
เป็นหัวโจก …..
นำกลุ่มคนเป็นเครือ ตั้งเป็นข่ายเอ็นจีโอสนุกสนานกันถึง ๒๔ ข่าย ตามเชิงชั้นอาชีพถนัด
ไปอาศัยร่มเงา “ลานปรีดี พนมยงค์” ที่ธรรมศาสตร์ แถลงข่าว
ตั้งโครงการ…….
“เสนอกฎหมายประชาชนเพื่อยกเลิกประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ๓๕ ฉบับ
ในหัวข้อ ‘ปลดอาวุธ คสช. ทวงคืนสถานการณ์ปกติ’ ”
อาจารย์ทราบใช่มั้ย …..
ว่านี่คือ การนำคนชุมนุม ปลุกระดม แถลงการณ์ที่อาจารย์อ่าน ตอนหนึ่ง ว่า…..
“…….รัฐธรรมนูญ ฉบับ ๒๕๖๐ได้รับรองสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน ดังนั้นประกาศและคำสั่งของ คสช.เหล่านี้ จึงขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน แต่เจ้าหน้าที่รัฐกลับยังอ้างอิง และนำประกาศเหล่านี้มาบังคับใช้โดยตลอด …….ฯลฯ……”
ตอนท้าย อาจารย์แถลงว่า…….
“….หลังจากรวบรวมรายชื่อได้ครบแล้ว ทางเครือข่าย ตกลงกันว่า จะไม่เสนอร่างกฎหมายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
แต่จะเสนอสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง เพราะเราไม่คาดหวังและไม่เชื่อมั่นกับ สนช.
เนื่องจาก สนช.ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และไม่ได้ออกกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
ขณะนี้ เป็นกระบวนการรวบรวมรายชื่อไว้ก่อน โดยหวังว่าประชาชนจะมาร่วมลงชื่ออย่างท่วมท้น เพื่อเป็นแรงกดดันให้มีการยกเลิกคำสั่ง คสช.โดยเร็วที่สุด” นั้น
อาจารย์ “ทบทวน” เนื้อหาที่อาจารย์แถลงนี่ดูอีกทีก็ได้ เผื่อจะเขินตัวเองขึ้นมาบ้าง
จะสร้างกระแส-สุมเชื้อ เพื่อแล่เนื้อเถือหนังรัฐบาล คสช.ก็พูดไปตรงๆ ดีกว่าจารย์
หรือบายพาสหัวใจหลายหน เลยใจอยู่ไม่ตรงปาก?
สถาปนาตัวเองเป็นถึงกูรูกฎหมาย…….
แต่กลับตัดตอนกฎหมายพูด “มีรัฐธรรมนูญใช้แล้ว คำสั่ง คสช.ใช้ไม่ได้ ต้องเลิก ขัดสิทธิขั้นพื้นฐาน” ต่างๆ นานา
ในด้านความรู้สึก มันเรื่องหนึ่ง
แต่ด้านเป็นจริงทางกฎหมายรัฐธรรมนูญ มันถูกต้องซะที่ไหนล่ะ?
ไหนๆ ตั้งตัวเป็นเจ้าสำนักไอลอว์ ก็ควรพูดให้มันตรงหน่อ-ตรงแนวกฎหมายหน่อย เฉไฉหวังแค่ฉะ คสช.มันจะเสียผู้ใหญ่
หรือเสียไปนานแล้ว?
คำสั่ง คสช.น่ะ มันจะเผด็จการ “ชอบ-ไม่ชอบ” ก็ประเด็นหนึ่ง แต่ในทางกฎหมาย ถึงมีรัฐธรรมนูญ ก็ยังมีผลบังคับใช้ ตามรัฐธรรมนูญปัจจุบัน
ไปอ่านรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๕ กับมาตรา ๒๗๙ ดูไป๊ จะได้ไม่พาแก๊งโฉบเฉี่ยวตะรางแบบนี้อีก
ตัวอาจารย์เองก็เคยโดนโทษคุก ๒ ปี แต่รอลงอาญาไว้ด้วยเรื่องทำนองนี้มาแล้ว ยังไม่หลาบจำอีกหรือ?
ก็เข้าใจอยู่……
อำนาจเผด็จการ นั้น ไม่มีใครต้องการ แต่บางครั้ง-บางคราว มันจำเป็นต่อสถานการณ์
อย่างครั้งจอมพลสฤษดิ์ บิดาอาจารย์ท่านก็เข้าใจ และแยกแยะได้ จนแปลงเผด็จการเป็นคุณูปการดังประจักษ์
แล้วทำไมตัวอาจารย์จึงไม่เข้าใจ กับระบอบทักษิณละก็เข้าใจทะลุดากทันทีเลยเชียว
ถ้าคำสั่ง คสช.ลิดรอนสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานจริง อย่างที่อ้างละก็…….
เมื่อวาน อาจารย์จอนสามารถพาคณะมาลอยหน้าวอนคุก ชนิดอิสรเสรีบานฉ่ำได้อย่างนั้นมั้ย?
มันขัดแย้งในตัวเองนะอาจารย์ ประกาศล่าชื่อจะไปยื่นให้ยกเลิกคำสั่ง คสช.
แต่ลงท้ายบอก…….
ไม่ยื่นกับ สนช.แต่จะเก็บไว้ก่อน รอไปยื่นกับ “สภาผู้แทนราษฎร”!?
หางโผล่มั้ยล่ะ?
สรุป…ที่ก่อการ ก็แค่หวังก่อกวน จุดชนวนรอเชื้อเติม อ้างส่งเดช เพื่อคนไม่รู้จะได้หลงเชื่อ ว่าคำสั่งคสช.ขัดรัฐธรรมนูญ
ถ้าขัดจริง หวังให้เลิกจริง ต้องยื่นให้ สนช.พิจารณาเลย
แต่กลับบอก เก็บไว้รอสภาผู้แทนฯ?
อ้าว……
แล้วออกมาล่ารายชื่อตั้งแต่เดี๋ยวนี้ทำไม ก็รอให้มีสภาผู้แทนราษฎรก่อนค่อยออกมาล่า มันจะไม่สมเหตุ-สมผลกว่าหรือ?
เป็นผู้ใหญ่แล้ว เรียนมาก็มาก อายุก็มาก โมหะน่าจะน้อยลงนะ
โผล่หัว คนเขาก็รู้แล้ว ว่านี่ “กองหนุนแม้ว”
คงเข้าใจว่ารัฐบาล คสช. “ขาลง” ละซีท่า จึงออกมาทำทุเรศ ชนิดไม่ประหยัดเกียรติตระกูล?
ตอนนี้ กกต.เขาเปิดให้ “จองชื่อพรรค” อยู่มิใช่หรือ จะมัวซุกผ้าซิ่นประชาธิปไตยตอดกันอยู่ทำไม?
จองซักชื่อ “พรรคจานมหา’ลัย” ใส่กันเลยซิ