วันเสาร์ 23 พฤศจิกายน 2024
  • :
  • :
Latest Update

‘ปณิดา ยศปัญญา’ นิสิตแห่งยุค -เปลวสีเงิน

“คนดี”………
เราต้องช่วยกันเชิดชู-ส่งเสริม ให้มีที่ยืน-ที่อยู่ในสังคมแบบมีเกียรติ
ไม่ใช่ต้องหลบ-ต้องซ่อน เหตุเพราะ “ทำดี”!
“น.ส.ปณิดา ยศปัญญา”
นิสิตสาขาวิชาการพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และ
“น.ส.ณัฏกานต์ หมื่นพล”
อดีตลูกจ้าง “ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง” ขอนแก่น
นี้คือ ต้นแบบ “คนรุ่นใหม่” วัยแสวงหา ในช่วงหัวเลี้ยว-หัวต่อศตวรรษ
ที่เราทั้งหลาย ควรต้องช่วยกันส่งเสริมและป้องภัยให้เธอ
ไทยอีก ๒๐ ปีข้างหน้า จะเป็นแบบไหน…….?
ไม่ได้อยู่ที่นายกฯ ประยุทธ์ หรือใครทุกคนที่อายุใกล้หลัก ๖๐
หากแต่อยู่ที่ นิสิต-นักศึกษา-อารยชน “คนรุ่นใหม่” อย่างคุณปณิดา คุณณัฏกานต์ นี่แหละ!
คนหลัก ๖๐ วันนี้ เป็นแค่ผู้ถากถาง “ทางใหม่” ไว้ให้เท่านั้น
ต้องเข้าใจว่า อนาคตประเทศ จะรุ่งหรือล่ม
ไม่ได้อยู่ตรงทางที่ถากวันนี้……..
อยู่ที่ “คนรุ่นใหม่” ในท้องไร่-ท้องนา ในตลาดแรงงาน ในรั้วมหาวิทยาลัย ในสังคมธุรกิจงาน ในระบบราชการงานเมือง ผู้รับมรดกชาติ
ว่าจะนำสังคมชาติไปต่อ ด้วยจิตวิญญาณตามมรรควิถีไหน?
ถ้าแบบจ่านิว นายโรม…………
ต้อง “ระบอบทักษิณ” เท่านั้น ผิดจากนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตย แบบนี้ อนาคตไทย ก็น่าห่วง
แต่ถ้าแบบ “น้องแบม” คุณปณิดา นิสิต มมส.กับคุณณัฏกานต์
วาง “ชีวิต-อนาคต” ตัวเอง เป็นเดิมพัน……..
พบ “โกงชาติ-โกงประชาชน” ไม่ยอมปล่อยให้คนโกงลอยนวล
แบบนี้ อนาคตไทย ไปรุ่ง!
กรณี “น้องแบม” สะท้อนให้เห็นชัด สังคมไทย “ไปไม่รอด” ถ้าไม่ปฏิรูประบบราชการ
เพราะนับวัน คน “ด้านสำนึก” จะยึดครองทั้งระบบ
น้องแบมเป็นนิสิตไปฝึกงาน ในตำแหน่ง “พัฒนาชุมชน” “กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์” (พม.)
การไปฝึก พบการโกงเงินสงเคราะห์คนจน………
โดยเธอถูกมอบหมายงานให้ปลอมเอกสารราชการ กรอกข้อมูลสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย เอกสารผู้ติดเชื้อเอดส์
และลงลายมือชื่อในใบเสร็จรับเงินพันๆ ชุด เป็นเงินหลายล้าน
เธอเป็นนิสิต อยู่ในสภาพ “ผ้าขาว” ไปฝึกงาน……..
แต่งานที่คนระบบรัฐมอบให้ฝึก คืองานยืมมือช่วยโกง “เงินคนจน” ให้
ตรงนี้เป็น “ด่านทดสอบ” ระหว่างดีกับชั่ว, ขาวกับดำ ว่าผ้าขาวอย่างน้องแบม จะยอมให้อย่างไหนย้อม?
ภาษิตโบราณว่า “ชาดจะดีไม่ต้องทาสีก็แดง”
น้องแบม-คุณณัฏกานต์ ลูกจ้างศูนย์คุ้มครองฯ ก็เช่นนั้น คือคนสันดานดี ไม่ต้องมีใครอบรมบ่มเพาะ ยังไงๆ ก็ดี
เจ้าหน้าที่ไม่ได้บอกหรอกว่า ที่ให้กรอกนั้น คือโกง……….
แต่ระดับนิสิต ย่อมสังเกตรู้
และถ้าเธอ “ทำไม่รู้” ใบรับรองการฝึก แน่นอน ต้องออกมาดี เผลอๆ มีสตุ้งสตางค์ติดมืออีกตะหาก
ตรงนี้ ต้องชมเชย “น้องแบม” ด้วยสุดปลื้ม…………
เธอนำเรื่องร้องเรียนเลขาธิการ คสช.และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)
ตรวจสอบแล้ว พบว่า…จริง
ไม่แค่ที่ศูนย์ขอนแก่น เมื่อขยายผลตรวจไปทั่วประเทศ
พบที่ “เชียงใหม่” อีก!
ยิ่งตรวจ-ยิ่งพบ อยู่ในข่ายแล้ว เช่นที่ บึงกาฬ, หนองคาย, สุราษฎร์ธานี, ตราด ฯลฯ
ตรงนี้พอเข้าใจได้………..
แต่ตรงที่ “น้องแบม” ถูกอาจารย์คนหนึ่งที่มหาวิทยาลัยของเธอตำหนิ
ว่าการที่เธอนำเรื่องทุจริตไปบอกต่อ คสช.และ ป.ป.ท.นั้น
“ทำให้มหาวิทยาลัยเสื่อมเสีย”!?
ถ้าจริง ขอบอกตรงๆ “ไม่แปลกใจ” กับทัศนคติอาจารย์คนนั้น ในยุค “แก๊งอเมริกัน” หว่านโปรย
เรื่องดีๆ ของน้องแบม พูดถึงกันค่อนข้างน้อย………
ก็ดีใจ ที่ ป.ป.ท.มอบโล่ประกาศเกียรติคุณเชิดชูเกียรติ “น้องแบม” และ “คุณณัฏกานต์” ไปวันก่อน    สำนักประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น “นางสาวอุบลรัตน์ คงกระพันธ์” ผู้อำนวยการ
มอบเกียรติบัตรและทุนการศึกษาเป็นการยกย่องเชิดชูในความกล้าหาญและในการเป็นเยาวชนที่ไม่ทนต่อการคอร์รัปชัน
และทราบว่า ๒ มีนานี้……..
“คุณชาติ สมใจวงษ์” ประธานหอการค้าขอนแก่น ในฐานะประธานเครือข่ายอนาคตไทย ขอนแก่น
จะมอบเกียรติบัตรยกย่องความดี รวมทั้งรางวัลต่างๆ เพื่อเป็นกำลังใจแก่น้องแบมและครอบครัว
ดีครับ………
คนดี ต้องให้กำลังใจ ช่วยกันยกย่อง เพื่อเป็นตัวอย่าง เป็นแรงกระตุ้นให้คนอื่นเชื่อมั่น ทำดีแล้วต้องมีดีสนองตอบแน่นอน
คนสู้เพื่อสร้างสังคมธรรม อย่าง…….
-หัวหน้าวิเชียร ที่ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ก็ดี
-คุณป้าขวานสะท้านสำนึกที่ประเวศ ก็ดี
-อย่างน้องแบม คนรุ่นใหม่ที่ “เกลียดโกง” ก็ดี
จะเห็นว่า………..
การเป็นคนดี คนสู้เพื่อสร้างสังคมธรรมให้แผ่นดินนั้น ไม่ง่ายเลย ต้องกล้าหาญ เสียสละ
เพราะมันเสี่ยงมาก เฉพาะหน้า อาจมีแนวร่วม มีคนคอยช่วยเหลือ
แต่ใครจะช่วยดูแลได้ตลอดไป ในขณะที่ “พวกเสียโอกาส” มันจ้องแก้แค้นตลอดเวลา
นั่นคือ คนดีอยู่เป็นสุขได้ยาก……….
ดูอย่างหัวหน้าวิเชียร มีแต่คนจ้องหาช่อง “ชำระแค้น”
ดูอย่างคุณป้าซิ แต่ละวัน-แต่ละคืน นอนได้หลับหรือ กับขบวนการกดดันเพื่อให้ “ถอนเสาเรือน” ไปจากตรงนั้น
และดูอย่างน้องแบมซิ……….
ทั้งที่เป็นศรีสง่ามหาวิทยาลัย การเป็นนิสิตตัวอย่างคนรุ่นใหม่ กลับได้รับคำตำหนิจากอาจารย์
ทั้งถูกคุกคามถึงบ้านช่อง ต้องหวาดระแวง ไม่รู้ภัยมืด-ภัยสว่างจะมาถึงตัวตอนไหน
เรียกว่า สังคมไทยวันนี้ คนดี “อยู่ยาก”
คนจัญไร “อยู่ยาว”!
แต่ก็ต้องชื่นชมนายกฯ ประยุทธ์ ที่สนใจทุกรายละเอียด สั่ง “พลตรี อัครเดช บุญเทียม” ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๒๓ ค่ายศรีพัชรินทร ขอนแก่น
ส่งทหารไปคุ้มกัน-ดูแลน้องแบมและพ่อ-แม่ของเธอ และยังบอก
“กองร้อยน้ำหวาน” ยินดีเปิดรับทั้งน้องแบมและคุณณัฏกานต์ เป็นลูกจ้างชั่วคราว!
เยาวชนผู้กล้าทั้ง ๒ ตอนนี้……….
“พันเอก พิทักษ์พล ชูศรี” หัวหน้าฝ่ายข่าว กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดขอนแก่น ดูแลเต็มที่!
ที่หยิบมาคุย ก็ด้วย ๒ เจตนา
เจตนาแรก ต้องการประกาศเกียรติคุณ “น้องแบมกับคุณณัฏกานต์”
และอยากให้ชนชาวโซเชียล รับไว้ในหมวดหมู่ “คนดี” ที่ต้องช่วยกัน ปกป้อง-ดูแล-ให้กำลังใจ
เจตนาที่สอง ต้องการให้เห็นว่า………..
“ระบบราชการ” ถ้าไม่ปฏิรูป ประเทศไปไม่รอดแน่!
กล้าหาญอย่างน้องแบม จะมีสักกี่คน?
แต่พฤติการณ์ “คนรัฐ” อย่างที่น้องแบมพบ มีเป็นหมื่น-เป็นแสน กระจายไปทุกองค์กรและหน่วยงานทั่วประเทศ
ถ้าไม่รื้อแล้วล้าง “สร้างสำนึก” ใหม่…………
งบประมาณมากขนาดไหน ถมเท่าไหร่ ก็ไม่มีทางไหลไปถึงประชาชนเต็มช้อน!
อย่าไปตั้งธงว่า เรื่องปฏิรูประบบราชการ โดยเฉพาะตำรวจ ยกให้เป็นภาระรัฐบาลต่อไป
งานถากถางสร้างทางใหม่ให้สังคมชาติ ลงมือวันไหน คือฤกษ์ดีวันนั้น!
ไม่มีคำว่า “หมดเวลา-ไม่มีเวลา”
มีแต่คำว่า “ไหนสัญญา…ไหนใจจริง?”
เมื่อวาน มีข่าวจากจีน คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีน จะเสนอยกเลิกจำกัดวาระดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
พูดชัดๆ คือ …….
ปูทางให้ “สีจิ้นผิง” เป็นประธานาธิบดีต่อไปได้เรื่อยๆ
จากกฎเดิมที่ ประธานาธิบดีเป็นได้ ๒ วาระ!
วันนี้ ทั้งพรรค ทั้งคณะกรรมการกลางพรรค ประสานเสียงยกให้ “สีจิ้นผิง” มีอิทธิพลบารมีเทียบเท่า “เหมาเจ๋อตง”
เพราะอะไร…….
ทั้งที่อีกหลายปีกว่า “สีจิ้นผิง” จะครบเทอม แต่กระแสสร้างทางให้ “ยาวไปเลย” เริ่มตั้งแต่ตอนนี้?
ง่ายมาก เพราะประธานาธิบดีสีจิ้นผิง พูดคำไหน ทำคำนั้นให้ปรากฏ
“จะกวาดล้างคอร์รัปชัน ลดฟุ่มเฟือยในระบบราชการ”
เทอมแรก ก็เห็นผล………..
พบคอร์รัปชัน ไม่ว่าใคร ระดับไหน ลูบหน้า ถ้าปะจมูก ก็ตัดจมูกทิ้ง เรื่องของชาติ ลองคอร์รัปชัน ไม่มีพี่ ไม่มีน้อง ไม่มีเพื่อน
ไม่ประหาร ก็ยัดคุก!
“จะทำให้พี่น้องคนจีนหลุดพ้นจากความยากจน”
เทอมแรก ก็เห็นผล…..
คนยากจนในมณฑลต่างๆ รวมแล้วร่วมร้อยล้านคน ได้รับการปลดแอกความจนดักดาน ด้วยนโยบายแก้จนที่ “ทำจริง”
นั่นคือ “คนจริง-ทำจริง”
สิ่งจริง จะปลดเปลื้องทุกสิ่ง ให้หลุดพ้นพันธะร้อยรัด
“คนจริง แต่ไม่จริง”……….
เงื่อนไขอิง “เพื่อไม่ทำ” จะตรึงไว้กับทางตันในเส้นทางเตียน
“ทุกสิ่ง-ทุกอย่าง” ไม่มีอะไรสาย ถ้า “ลงมือ”!

 

http://www.thaipost.net/main/detail/3958