สนุกกันใหญ่…
หน่วยกล้าตายออกมาแล้ว
พวกทัพหลังหลบอยู่ใต้ม้านั่ง พากันเป่าปาก เคาะชาม กะลา กันครื้นเครง
ราวกับหมาเดือนเก้า…
ก็ดูซิ….กี่โพลที่ออกมา ประชาชนบอกว่าเบื่อการชุมนุมทางการเมืองเต็มทน เซ็งพอแล้ว ให้บ้านเมืองได้อยู่สงบบ้าง
พักอารมณ์กันหน่อย
แล้วเป็นไง?
ม็อบกลางกรุงยังหลอนกันไม่เลิก
ก็ชัดเจนครับ…มีความพยายามจะจุดไฟให้ติด
เติมถ่านแล้ว ยางในรถก็วางไว้เตรียมจะเผาแล้ว…
แต่ไม้ขีดยังเปียกอยู่
ม็อบ MBK39 ที่จริงทางห้างมาบุญครองขอว่าอย่าใช้ชื่อ MBK เพราะเป็นชื่อเขา ไม่อยากให้เอาไปใช้เคลื่อนไหวทางการเมือง
ไม่อยากมีส่วนสร้างปัญหาการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น
แต่ทางม็อบสกายวอล์กปทุมวันเขายืนยันว่าจะใช้ต่อ
แถมยังมีนางห้อยไอ้โหนจากพรรคเพื่อไทย บอกว่า MBK39 เป็นชื่อเฉพาะ ไม่เกี่ยวกับใคร ไม่มีใครเสียหาย
อืมมม….คงจะเป็นสิทธิเสรีภาพ อีกสายพันธุ์หนึ่ง
แต่…เอ๊ะ…ก่อนนี้ ละครเรื่อง “ล่า” ช่องวัน ๓๑ เขาเอาพรรคนำไทย พร้อมโลโก้ มาเป็นส่วนหนึ่งของละคร แล้วใครที่ไม่พอใจ
ในละครเขาใช้พรรคการเมืองนี้เล่าเรื่องความเลวของนักการเมือง พรรคเพื่อไทยไม่ใช่หรือที่ขู่จะฟ้องเขา ทำให้ต้องถอดโลโก้พรรคออก
นั่นขนาดพรรคนำไทย มีที่มาที่ไปไม่เกี่ยวอะไรกับพรรคเพื่อไทยเลย ดร.อำนวย วีรวรรณ ตั้งเอาไว้เมื่อปี ๒๕๓๗
แค่ในละครใช้โลโก้ดูคล้ายพรรคเพื่อไทยเท่านั้น
พรรคเพื่อไทยทนไม่ได้ เชื่อว่าตัวเองไม่ได้เลวเหมือนในละคร
ยืนกรานจะฟ้อง!
แต่ MBK มันชัดๆ ว่าของมาบุญครองเขา
ไปทำระยำตำบอนแค่ไหน เขาไม่กล้าฟ้องหรอกครับ…เพราะภาพเก่าๆ ที่มีไฟท่วมตึกมันยังหลอน ยังติดตาอยู่
ก็เหมือนนัดกันไว้…..
“ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ” โผล่ที่ปักกิ่ง
เจตนามาไหว้เจ้าตรุษจีน อย่างนั้นเหรอ?
นี่….ถือว่าโผล่มาแบบคู่หูดูโอ้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่พี่ชายน้องสาวหนีคุกเมืองไทย
และเป็นอีกครั้งที่ ทักษิณ เฉียดมาแถวนี้ ในขณะที่มีการชุมนุมในกรุงเทพฯ
ที่จริงไม่น่าจับโยงกัน เพราะฝ่ายประชาธิปไตยเขาบอกว่า MBK39 เป็นพลังบริสุทธิ์ นำโดยนิสิต นักศึกษา ไม่เกี่ยวกับการเมือง
แต่ฝ่ายประชาธิปไตยก็จับกรณีเปรมชัย กรรณสูต ล่าเสือดำทุ่งใหญ่นเรศวร ว่ารัฐบาลจะพังเหมือน กรณี ณรงค์ กิตติขจร พาเฮลิคอปเตอร์ไปล่าสัตว์ทุ่งใหญ่นเรศวร แล้ว ฮ.ตกที่นครปฐม
เป็นหนึ่งในชนวนให้เกิดเหตุการณ์ ๑๔ ตุลา ๑๖
ไปประดิษฐ์เลขสวย ๒๕๑๖-๒๕๖๑ แล้วหลับตานึก ทึกทักเอาว่า….
ต้องพังแน่ๆ!!
ก็มองไม่ออกว่ารัฐบาลจะพังเพราะ เปรมชัย ไปยิงเสือดำต้มยำกินได้อย่างไร
ก็…เปรมชัย คือหนึ่งในท่อนำเลี้ยงพรรคเพื่อไทยไม่ใช่หรือ?
คสช.ถึงได้เรียกไปรายงานตัว
การเมืองวันนี้มันจึงปรากฏในรูป อยากให้เป็น แต่เป็นไม่ได้ เหมือนอีกา อยากเป็นหงส์
คือ…มัน ไม่ใช่
แถมยังย้อนกลับเข้าหาตัวเองอีก
แน่นอน มีคนอยากให้รัฐบาล คสช.ไปให้พ้นหน้าพ้นตาไวๆ เพราะทนอยู่ในสภาพสังคมที่เขาให้พูดน้อยๆ อย่าถามมาก ไม่ได้
อุตส่าห์ใช้ชื่อกลุ่ม “คนอยากเลือกตั้ง” ก็น่าลองไปตรวจสอบดูว่าคราวที่แล้วไปใช้สิทธิ์กันกี่คน
การเคลื่อนไหวที่เหมือนกระดี่ได้น้ำ มีคนหนุนหลัง ท้าทายให้จับ ยิ่งเยอะยิ่งดี กลยุทธ์แบบนี้เตือน MBK39 ไว้ก่อน ถ้าเป็นรัฐบาลเลือกตั้ง
พอจะเล่นได้
ล้มรัฐบาลก็เลือกตั้งใหม่ ทันใจ ๓ เดือนจบ
แต่กับรัฐบาล คสช. ถ้าคิดว่าปล่อยให้จับเพื่อสร้างเงื่อนไข สร้างภาพลบให้รัฐบาล คสช. ก็ให้ดูกรณี “จตุพร พรหมพันธุ์” เอาไว้เป็นตัวอย่าง
นั่นขนาดคุยว่ามีมิตรรักแฟนเพลงเป็นล้านอยู่ในมือ เป่านกหวีดสั่งรบเมื่อไหร่ก็ได้
แต่….
เข้าออกคุกเป็นว่าเล่น ถึงเวลาติดคุก ก็ติดลืม!
รายนี้โดนหลายคดี ล่าสุดอาจดูไม่เกี่ยวเพราะหมิ่นประมาทพี่มาร์ค แต่รอบหน้ามีรอคิวอีก ก็กรรมเก่าทั้งนั้น
แนะให้…จะสู้กับรัฐบาล คสช. อย่าห่าม
เกรียนก็ไม่ได้ผล
วิธีการแบบนี้สุดท้ายเข้าตัว มีปัญหายุ่งยากตามมามากมาย
ดูกรณี “ไผ่ ดาวดิน” อีกคน พวกผู้ใหญ่จอมเสี้ยมมีเยอะ พอเด็กติดคุก หายหัวหมด
ฉะนั้น จะสู้กับ คสช.ให้ดู กลุ่มเดินมิตรภาพเป็นแบบอย่าง
ที่ถูกจับเพราะตั้งหลักไม่ทัน อันนั้นก็แก้ไขกันไป
แต่สิ่งที่กลุ่มเดินมิตรภาพ เดินไปถูกทางแล้วนั่นคือ ไม่ต้องตั้งหน้าตั้งตาไล่ใคร แค่เดินไป แล้วพูดความจริงว่า บ้านเมืองมีอะไรต้องแก้ไขบ้าง ปัญหาอยู่ตรงไหน
รวมพลคนมีปัญหาแล้วพูดถึงปัญหาหาทางออก
แบบนั้นประชาชนเขาเอาไปคิดเอง ไม่ต้องมาท้าให้จับจุดกระแสเป็นฮีโร่
คิดจะล้มรัฐบาล คสช.ให้ไปก่อนกำหนดคงยาก เพราะสถานการณ์พิเศษแบบนี้ ต้องร้องเพลง “รอ” กันอย่างเดียว
รอกฎหมายลูกเสร็จแล้วไปเลือกตั้ง นั่นคือทางเลือกที่ดีที่สุด
โรดแมปขยับแน่ แต่ไม่น่าเยอะ อย่างไรเสียอยากเลือกตั้งได้เลือกแน่ปีหน้า ไม่เลยไปปี ๒๕๖๓ แน่นอน เพราะไม่มีปัจจัยให้เป็นเช่นนั้น
กลับมาที่ “น.ญ-น.ช.” “ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ” คนพี่คุก ๒ ปี ส่วนคนน้อง ๕ ปี ไปโชว์ตัวที่เมืองจีน เหมือนไม่มีอะไร…
แต่มี…
รูปแบบการเคลื่อนไหวไม่ต่างจากเดิมสักเท่าไหร่
ทักษิณ มักหาโอกาสแวะเวียนมาแถวนี้เสมอ เมื่อในไทยมีการเคลื่อนไหวทางการเมือง เพียงแต่คราวนี้หนีบน้องสาวมาด้วย
ถือโอกาสเปิดตัว ประกาศไม่กลัวที่จะถูก คสช.ไล่ตาม
มันก็เหมือนเวียนมาสร้างความมั่นใจให้ใครบางคนในไทย ว่านายใหญ่ยังพร้อมอยู่
พวกเด็กๆ ใส่ชุดนักศึกษาอาจไม่รู้ คิดว่าที่ตัวเองทำคือพลังบริสุทธิ์
แต่จิกซอว์ ทุกตัว ล้วนเชื่อมโยงกันหมด
ที่บอกว่าพลังบริสุทธิ์บางคนก็มีดีลลับๆ อยู่
เคลื่อนไหวสอดรับเป็นระลอกคลื่น
ก็…ดีสำหรับประเทศที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงนี้ โดยนักศึกษากลุ่มนี้ และนักการเมืองกลุ่มที่รู้ๆ กันอยู่
เป็นโอกาสดีที่พรรคเพื่อไทยได้ทำหน้าที่ในฐานะผู้ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ
ในฐานะฝ่ายประชาธิปไตย
การเมืองไม่ได้มีวันนี้วันเดียว วันข้างหน้าหากพรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ก็จะได้พิสูจน์ถึงมาตรฐานความเป็นฝ่ายประชาธิปไตย
ถึงวันนั้นยังจะท่องคำว่าสิทธิ เสรีภาพ ของประชาชนสำคัญกว่าเรื่องอื่นใดอยู่หรือไม่?
รวมทั้งพลังบริสุทธิ์ที่ว่านี้ จะยังบริสุทธิ์เมื่อระบอบทักษิณกลับเข้าสู่อำนาจ หรือเปล่า?
ถ้าปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องกัน ก็ลองไปส่องเฟซบรรดา MBK39 ดู บางคนถ่ายรูปคู่กะหนุงกะหนิงกับชาวคณะเพื่อไทย
ลองดู……
เป็นเรื่องน่าเศร้า การเคลื่อนไหวในวันนี้ จะนำไปสู่ปัญหาใหญ่ นั่นคือ การออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยในบ้านเรา มาถึงจุดที่ไม่มีความน่าเชื่อถือเสียแล้ว
เพราะความไม่มั่นใจว่า การเรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องสิทธิเสรีภาพ เมื่อได้มาแล้ว ใช่ของจริงหรือไม่
เผื่อใครไม่ทันสังเกตเห็น….
วงศ์วานว่านเครือกลุ่มที่อ้างตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตยวันนี้ ล้วนอยู่ในขบวนการเผด็จการรัฐสภาแทบทั้งสิ้น
ขบวนการใส่ชุดนักศึกษาที่ว่านี้ ก็แทบไม่พูดถึงการคอร์รัปชัน ที่ศาลตัดสินติดคุก ๒ ปี ๕ ปี เลย
สุดท้าย ก็ยังเป็นเรื่องของคนสองฝั่ง
ไม่เอา คสช. แต่เอาทักษิณ มันแค่นั้นจริงๆ.