เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2561 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกาวัย71ได้ทวีตข้อความตอบโต้ นายคิม จอง อึน ผํู้นำเกาหลีเหนือ วัย 33 ด้วยข้อความว่า “ผู้นำเกาหลีเหนือคุยว่ามีปุ่มนิวเคลียร์อยู่บนโต๊ะทำงาน พร้อมยิงตลอดเวลา แต่จะมีใครในประเทศที่สูญสิ้นและอดอยากแร้นแค้นแห่งนั้นเคยบอกผู้นำของตัวเองบ้างหรือไม่ ว่าประธานาธิบดีสหรัฐก็มีปุ่มนิวเคลียร์เหมือนกัน แถมยังอันใหญ่กว่า ทรงพลังกว่า และที่สำคัญคือใช้งานได้จริง”
North Korean Leader Kim Jong Un just stated that the “Nuclear Button is on his desk at all times.” Will someone from his depleted and food starved regime please inform him that I too have a Nuclear Button, but it is a much bigger & more powerful one than his, and my Button works!— Donald J. Trump (@realDonaldTrump)
ท่าทีดังกล่าวของทรัมป์มีขึ้นหลังจากที่ คิม จอง อึนได้ได้กล่าวในวันขึ้นปีใหม่ว่า มีปุ่มกดนิวเคลียร์อยู่บนโต๊ะพร้อมยิงตลอดเวลา นี่คือเรื่องจริงไม่ใช่แค่คำขู่ และเกาหลีเหนือจะต้องมุ่งผลิตขีปนาวุธและหัวรบนิวเคลียร์ให้ได้ในปริมาณมากต่อไป รวมทั้งต้องเร่งติดตั้งอาวุธเหล่านี้ให้พร้อมใช้งานได้โดยเร็วด้วย
ขณะเดียวกันในสาส์นปีใหม่ของคิมจองอึน เกาหลีเหนือมีท่าทีที่ดูเป็นมิตรต่อเกาหลีใต้มากขึ้น โดยนาย คิม จอง อึน เปิดการเจรจากับนาย มุน แจ-อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ซึ่งได้เสนอวันเจรจาในวันที่ 9 มกราคมนี้ ให้นักกีฬาเกาหลีเหนือมาร่วมแข่งโอลิมปิกฤดูหนาวพยองชังที่เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพในเดือนกุมภาพันธ์นี้ แต่ นางนิกกี ฮาร์ลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ได้กล่าวว่า เกาหลีเหนือจะมีการทดลองขีปนาวุธอีก และสหรัฐฯ จะไม่ยอมรับการหารือระหว่างสองเกาหลีอย่างจริงจัง หากไม่มีความคืบหน้าในการที่จะทำให้เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์
ก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์กับ Financial Times เมื่อเดือนเมษายน 2560 ระบุว่า บนโต๊ะทำงานของเขามีปุ่มปุ่มหนึ่งชื่อว่าปุ่ม Diet Coke ซึ่งเมื่อข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกมา ผู้คนต่างพากันขบขัน และให้ความเห็นว่าประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ต่างจากเด็ก