เมื่อวันที่ 20 ก.ย. สมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ เรื่อง ขอให้ปล่อยตัว พระมหาอภิชาต ปุณฺณจนฺโท โดยด่วน โดยระบุว่า เนื่องจากสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย ได้รับข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่รัฐได้นิมนต์พระมหาอภิชาติ ปุณฺณจนฺโท ออกจากวัดที่ จ.สงขลา เพื่อไปทำการสอบสวนให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ โดยขณะนี้ได้นำตัวไปที่ค่ายเสนาณรงค์ หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อคืนวันที่ 19 ก.ย. สมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย รู้สึกกังวลต่อสวัสดิภาพความปลอดภัยของท่าน และเป็นห่วงเกี่ยวกับการปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัย ที่พระทุกรูปต้องปฏิบัติขณะเข้าพรรษา ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจไม่ทราบ การควบคุมตัวบุคคลไปเช่นนี้ เป็นการริดรอนสิทธิเสรีภาพของบุคคลตามรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2560 พระมหาอภิชาติ ปุณฺณจนฺโท แม้จะกล่าวด้วยถ้อยคำรุนแรง แต่ก็เป็นเหตุมาจากสถานการณ์ความรุนแรง ที่มีขบวนการไล่ฆ่า ไล่ทำร้ายพระสงฆ์ไทย ทำให้ท่านเกิดความกังวล เป็นห่วง จึงได้ออกมากล่าวคำเช่นนั้น หามีเจตนาร้ายอย่างอื่นไม่ อีกทั้งเนื้อหาทั้งหลายที่ท่านกล่าวมา ก็ล้วนมีพื้นฐานมาจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นต่อคณะสงฆ์ในประเทศไทย อีกทั้งช่วงนี้เป็นระหว่างเข้าพรรษา ซึ่งมีพุทธบัญญัติ สำหรับพระภิกษุว่า ห้ามไปค้างแรมที่อื่น หากไปที่อื่นแล้วจะต้องกลับมาถึงที่จำพรรษาก่อนฟ้าสาง หาไม่แล้วจะส่งผลให้พรรษาขาด สมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย ขอเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวพระมหาอภิชาต ปุณฺณจนฺโท โดยส่งให้ถึงวัดที่ท่านจำพรรษา ก่อนฟ้าสางภายในวันนี้ เพื่อไม่ให้ท่านต้องขาดพรรษาตามพระธรรมวินัย ที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติเอาไว้ อีกทั้งไม่เป็นการริดรอนสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล และให้เกียรติต่อพระสงฆ์ไทย
ช่วงค่ำวันเดียวกัน กลุ่มเฟซบุ๊ก และไลน์ของพระสงฆ์ มีการส่งต่อภาพ และข้อความระบุว่า พระมหาอภิชาติได้เข้าทำการลาสิขา(สึก) แล้วที่พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น.โดยมีพระราชกิตติเวที ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรฯ เป็นผู้สึกให้ และมีพระครูพิทักษ์รัตนวงศ์ ผู้ข่วยเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรฯ เจ้าคณะแขวงดุสิต เป็นพยาน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามข้อเท็จจริงจากพระครูพิทักษ์รัตนวงศ์ โดยได้รับการยืนยันว่า พระมหาอภิชาติสึกแล้วจริง และเป็นการยินยอมจากตัวพระมหาอภิชาติเอง และภายหลังจากทำการสึกแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองปราบปรามได้ควบคุมตัวพระมหาอภิชาติไปกองปราบฯทันที ซึ่งเมื่อสอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุเพียงว่าเป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคง
สำหรับพระมหาอภิชาตินั้น เป็นพระวัดเบจมบพิตรฯ ทั้งเป็นพระนักเคลื่อนไหวที่มักแสดงความเห็นที่รุนแรงในเชิงปลุกระดม ใส่การประท้วง ศาสนาอิสสลามและการเมืองในศาสนาพุทธโดยที่ไม่มีหลักฐานเด่นชัด
ส่งผลให้โดนเตือนจากทางมหาเถรสมาคม(มส.) และหน่วยงานความมั่นคงมาแล้วหลายครั้ง พระมหาอภิชาติ ได้เคยยุงยปลุกปั่นให้เกิดการแบ่งแยกพุทธศาสนาสองนิกายโดย ให้มีการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช ๒พระองค์ และ เคยโพสภาพโจมตีศาสนาอื่น ว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์จับกุม ธัมชโย ที่วัดธรรมกายมาแล้ว
ส่วน เฟสบุ๊ก ตื่นเถิดชาวพุทธ – Wake Up Buddhist ซึ่งในอดีตเป็นเว็บไซต์หนึ่งในเครือข่ายกลุ่มสนับสนุนวัดธรรมกายช่วงจับกุม ธัมชโย ได้โพสเฟสบุ๊กออกมา ปลุกมวลชนคุ้มครอง ‘พระอภิชาติ’ และได้ปล่อยข่าวลือโดยกล่าวหาว่าทางรัฐบาลรังแกพุทธศาสนา เรื่องนี้เป็นจริงอย่างกลุ่มเฟสบุ๊กผู้สนับสนุน’พระอภิชาติ’ได้ระบุหรือไม่นั้น ต้องไปฟัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ครับ
บิ๊กป้อม ยัน ‘พระอภิชาติ’ ขอสึกเอง ปัดคุมตัวเข้าค่ายทหาร
เมื่อวันที่ 21 ก.ย.60 ที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวพระมหาอภิชาติ ปุณฺณจนฺโท มายังวัดเบญจมบพิตร เพื่อบังคับให้ลาสิกขา ณ พระอุโบสถ วัดเบญจมบพิตร ว่า ตนได้รับรายงานว่าท่านลาสิกขาแล้ว โดยเป็นความต้องการและความสมัครใจของท่านเอง ทั้งนี้จากการแสดงความคิดเห็นที่ผ่านมาของอดีตพระอภิชาติ ตนคิดว่ากระทบกระเทือนต่อความมั่นคงทางด้านศาสนา ซึ่งถ้าฟังจะรู้เอง พร้อมย้ำว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้นำตัวอดีตพระอภิชาติเข้าควบคุมตัวที่ค่ายทหารแต่อย่างใด เพราะเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ.
