สหรัฐฯใช้สิทธิ์วีโต้ คัดค้านร่างมติของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ที่ปฏิเสธการรับรองสถานะของเมืองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล รวมถึงแผนการย้ายสถานทูตสหรัฐฯ
ในที่ประชุมยูเอ็น มีเพียงนิกกี เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติ เป็นผู้ใช้สิทธิ์วีโต้หนึ่งเดียวกลางที่ประชุม คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอสซี
เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติ บอกว่า ร่างมตินี้ถือเป็นการดูหมิ่น และสร้างความอับอายให้กับสหรัฐฯ และสหรัฐฯจะไม่ยอมให้ประเทศไหนมาสั่งให้สถานทูตสหรัฐฯไปตั้งอยู่ที่ใด
การใช้สิทธิ์วีโต้ของสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากที่ 14 ชาติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เห็นชอบให้ร่างมติให้คงนโยบาย 2 State Solution หรือการที่ให้ปาเลสไตน์และอิสราเอลได้รับการยอมรับเป็นรัฐ รวมทั้งให้เมืองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของทั้ง 2 ประเทศ
ในร่างมติ ระบุว่า ทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติรู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการรับรองสถานะของเมืองเยรูซาเลม และการตัดสินใจหรือการกระทำที่เกิดขึ้นล่าสุดนั้นไม่มีผลทางกฏหมาย เป็นโมฆะและต้องล้มเลิกไปทั้งหมด โดยไม่ได้พาดพิงถึงการตัดสินใจของผู้นำสหรัฐฯโดยตรง
ทั้งนี้ เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 6 ปีที่สหรัฐฯใช้สิทธิ์วีโต้คัดค้านร่างมติของยูเอ็น โดยในฐานะที่สหรัฐฯเป็น 1 ใน 5 ชาติสมาชิกถาวร จะทำให้ร่างมตินี้ไม่สามารถเดินหน้าต่อได้