รัฐบาลกัมพูชาเตรียมพิจารณาออกกฏหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยนายซอ เค็งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประกาศแก้ไขกฏหมายอาญาเอาผิดลงโทษผู้ล่วงละเมิดอย่างหนักกับผู้ล่วงละเมิด นักวิชาการชี้ประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากศาลสูงแห่งกัมพูชามีคำสั่งยุบพรรคCNRPของนายสม รังสี และมีการปิดสื่อกับกลุ่มเอ็นจีโอ
เมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมา (วันที่ 21 ธันวาคม 2560) นสพ.พนมเปญโพสต์ได้เผยแพร่ข่าวรัฐบาลกัมพูชาเตรียมออกกฏหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเป็นครั้งแรก โดยเนื้อหาข่าวกล่าวว่า นายซอ เค็ง(Sar Kheng) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเปิดเผยวาระการประชุมหารือกับคณะรัฐบาลเกี่ยวกับกฏหมายหมิ่นพระบรมเดชนุภาพครั้งแรก เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า กฎหมายนี้จะเป็นวิธีการที่เหมาะสมทางหนึ่งในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ของกัมพูชา เช่นเดียวกับที่ประเทศไทย เนเธอร์แลนด์ และ ญี่ปุ่น ที่ต่างมีกฏหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพในลักษณะเดียวกัน
นายซอร์ เค็งกล่าวว่า ที่ผ่านมาถึงแม้จะมีการระบุในรัฐธรรมนูญว่า สถานะสถาบันพระมหากษัตริย์กัมพูชาทรงอยู่ในสถานะที่ล่วงละเมิดมิได้ แต่ที่ผ่านมากลับไม่มีกฏหมายที่จะสามารถเอาผิดผู้ล่วงละเมิดได้อย่างชัดเจน ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกัมพูชาจะหารือเพื่อปรับกฎหมายอาญาบางมาตราเพื่อให้สามารถเอาผิดกับผู้หมิ่นพระบรมราชานุภาพได้
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่เกิดประเด็นการปราบปรามคู่ขัดแย้งต่อรัฐบาลนายฮุนเซนอย่างหนัก โดยเฉพาะภาคสื่อและกลุ่มเอ็นจีโอ โดยเมื่อเดือนที่แล้ว ศาลสูงของกัมพูชามีคำสั่งยุบพรรคซีเอ็นอาร์พีของนายสม รังสีซึ่งถูกกล่าวหาว่ารวมมือกับสหรัฐเพื่อคิดล้มล้างรัฐบาลนายฮุนเซน ขณะที่มีรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลกัมพูชายังคงกวาดล้างกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐบาลโดย กระทรวงสารสนเทศของกัมพูชาสั่งปิดสื่อไปแล้วกว่า 330 แห่ง เช่นเดียวกับสถานีวิทยุอีก 15 แห่ง
นายพอล แชมเบอร์ อาจารย์สาขาวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยนเรศวรของไทยได้วิเคราะห์ว่า สำหรับกรณีของกัมพูชาเล็งการออกกฎหมายลักษณะนี้อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการปราบปรามฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล เฉกเช่นกันประเทศเพื่อนบ้านของกัมพูชา เนื่องจากนายกรัฐมนตรีฮุนเซนได้รับพระบรมราชานุญาตจากสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนีแห่งกัมพูชา ซึ่งให้อำนาจการเอาผิดใครก็ตามที่วิจารณ์นายฮุนเซนเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายค้านของรัฐบาล ขณะที่กฏหมายดังกล่าวก็เปิดช่องให้ศาลตีความอย่างกว้างๆ
เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา อดีตรองนายกรัฐมนตรีนาย ลู เลย์ เสร็ง ถูกนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ฟ้องร้องเนื่องจากมีการกล่าวหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของพระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี สื่อและหน่วยงานเอ็นจีโอนั้นถูกสั่งปิด
นอกจากนี้ พนมเปญโพสต์ยังรายงานข่าวว่า นาย Brad Adams ผู้อำนวยการของ Human Right Watch Asia กล่าวโจมตีต่อรัฐบาลกัมพูชา ว่า การออกกฏหมายลักษณะนี้จะยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของสถาบันกษัตริย์กัมพูชาที่ควรเป็นศตวรรษที่ 21 ถอยหลังลงไปเป็นยุคกลางที่กษัตริย์ทรงเป็นสมมติเทพมากกว่าการเป็นมนุษย์ อีกทั้งยังเรียกร้องกดดันให้สมเด็จพระนโรดม สีหมุนี ทรงใช้ประสบการณ์จากการที่ทรงเคยเป็นเอกอัครราชทูตประจำยูเนสโกแสดงจุดยืนว่า กฏหมายดังกล่าวไม่จำเป็นต่อกัมพูชา อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง อูม ดาราวุธ ปฏิเสธที่จะให้ความคิดเห็นเรื่องนี้จนกล่าวกฎหมายดังกล่าวจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการ