“หน.ทุ่งใหญ่ฯ ”ลั่นคนทุ่งใหญ่มีศักดิ์ศรีไม่ต้องการเงิน “เปรมชัย”แม้แต่บาทเดียว ชี้จะเป็นใครก็ช่าง หากทำผิดก็ว่ากันไปตามกระบวนการทางกฎหมายระบุแก๊งล่าเสือดำส่อพิรุธดื้อไม่ฟังเจ้าหน้าที่จนค้นเจอความผิด

เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ตะวันตก ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ถึงกรณีการจับกุมคณะของนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ที่เข้าไปตั้งแคมป์ล่าสัตว์ป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ ว่า ในเรื่องกำลังเจ้าหน้าที่ที่เพียงพอต่อการจับกุมผู้กระทำผิดนั้น  เป็นเรื่องที่พูดยาก ต้องเรียนว่าการจะจับคนๆ หนึ่งมาลงโทษต้องใช้เจ้าหน้าที่ประมาณ 5-10 คน จึงจะปลอดภัย

เมื่อถามว่าในเวลานั้นได้เข้าไปเจอและเตือนกลุ่มของนายเปรมชัยแล้วใช่หรือไม่ และเข้าไปก่อนหรือหลังมีเสียงปืนดังขึ้น  นายวิเชียร กล่าวว่า มีเสียงปืนดังขึ้นก่อน แต่ว่าเราอาจจะยังมาไม่ทัน และพบพฤติการณ์การกระทำความผิดในขณะที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าพื้นที่แล้ว  ส่วนมีการเตือนก่อนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหรือไม่ นายวิเชียร กล่าวว่า ตอนแรกเราก็เข้ามาตักเตือนและให้คำแนะนำเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ประพฤติตัวอย่างถูกต้อง เพียงแต่ว่ามีการเพิกเฉยและดื้อรั้นเกิดขึ้น จึงนำไปสู่การพบพิรุธสงสัย ถ้าเขาเชื่อเราแต่แรกตามที่แนะนำ เราจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขาเข้ามาล่าสัตว์

เมื่อถามว่าเขาแสดงตัวหรือไม่ในขณะที่เราเข้าไปแนะนำ นายวิเชียร กล่าวว่า เขาอยู่ที่เดิมไม่ย้ายจุดพักแรม โดยให้เหตุผลว่ากลัวจะไม่ปลอดภัย เพราะเป็นการเดินทางในเวลากลางคืน แต่ว่าก็ยังกล้าที่จะพักแรมต่อในเวลากลางคืนทั้งที่เป็นป่าลึกและไม่อนุญาตให้อยู่จุดนั้น ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกใจ พอไม่ปฏิบัติตามก็จะมีข้อสงสัยว่าซ่อนอะไรอยู่หรือเปล่า จึงเดินหาและตรวจ จนค่อยๆ โผล่ขึ้นมาทีละเปลาะ

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีใครมาเจรจากับนายวิเชียรโดยตรงหรือไม่ว่าขอให้ไม่เอาเรื่องหรือขอให้ยอม นายวิเชียร กล่าวว่า เป็นปกติ เพียงแต่ก็ไม่ได้พูดตรงๆ เขาไม่ได้เสนอว่าต้องเป็นกี่บาทกี่อะไร ก็เป็นการพูดหยั่งเชิงดูว่าเราจะมีท่าทีเอนเอียงไปทางเขาหรือไม่ เมื่อถามว่าทางเรารู้ว่าเขาเป็นผู้บริหารบริษัทใหญ่ในตอนไหน นายวิเชียร กล่าวว่า ในตอนที่เอาไปควบคุมตัว ในจุดเกิดเหตุก็มีการสอบถามว่าเป็นใครอะไร แต่เขาไม่ได้พูดเอง แต่เป็นผู้ติดตามที่บอกว่าเป็นเจ้านายใหญ่ของบริษัทนั้นบริษัทนี้ และมีการเอ่ยชื่อบริษัท ก็ทราบในตอนนั้น แต่ไม่ได้มีการเชื่อมโยงไปถึงใครที่จะมาช่วยเคลียร์คดีให้

เมื่อถามว่าได้มีการพูดว่าเป็นแขกวีไอพีที่ได้รับการประสานมาแล้วหรือไม่ นายวิเชียร กล่าวว่า  เขาก็ไม่ได้พูดว่าเป็นแขกวีไอพี แต่เป็นการสื่อให้เราทราบว่าเขาทำงานที่นี่ ชื่อนี้ แต่เราก็ไม่ได้สนใจอะไรและทำไปตามหน้าที่ จะเป็นใครก็ช่าง หากทำผิดก็ว่ากันไปตามกระบวนการทางกฎหมายโดยเด็ดขาด  ส่วนเป็นห่วงหรือไม่ว่าการดำเนินคดีจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง นายวิเชียร กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าเรื่องนี้ไม่เกินฝีมือตำรวจและป่าไม้ไทยแน่นอน

“ผมขอเรียนว่า คนทุ่งใหญ่ศักดิ์ศรีเรามี ถึงแม้เราจะอยู่ในป่า เราไม่ได้ร่ำรวย แต่เราก็ไม่ได้ต้องการเงินจากคุณเปรมชัยแม้แต่บาทเดียว”หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์ทุ่งใหญ่ฯ กล่าว.
… อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/politics/626246