เมื่อคืนวานนี้ (8 ม.ค.) ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ได้พบปะกับประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ณ เรือนรับรองแห่งรัฐเตี้ยวอี๋ว์ถาย กรุงปักกิ่ง และกล่าวว่าการเดินทางเยือนจีนของมาครงซึ่งถือเป็นจุดหมายแรกในเอเชีย แสดงถึงการให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อความสัมพันธ์จีน-ฝรั่งเศส
“ประธานเหมา เจ๋อตง และนายพลชาร์ล เดอ โกล ได้ทำการตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์ด้วยสายตาทางการเมืองอันกว้างไกล โดยสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 1964” สีกล่าว “การตัดสินใจดังกล่าวไม่เพียงเปลี่ยนแปลงรูปแบบโลกในเวลานั้น แต่ยังส่งอิทธิพลต่อการพัฒนาโลกในทุกวันนี้ด้วย”
ทั้งนี้ ฝรั่งเศสนับเป็นมหาอำนาจตะวันตกชาติแรกที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐประชาชนจีน
“ในยุคสมัยใหม่นี้ เราควรตามรอยจิตวิญญาณของการรับผิดชอบประวัติศาสตร์ ยึดมั่นแนวทางอันถูกต้องเพื่อมุ่งหน้าไปสู่อนาคตที่สว่างสดใสของความสัมพันธ์จีน-ฝรั่งเศส” สีกล่าว “ท่ามกลางความไม่แน่นอนมากมายของโลกปัจจุบัน จีนสนับสนุนการสร้างสังคมอนาคตแห่งการแบ่งปันเพื่อมนุษยชาติ ซึ่งเป็นทัศนะเดียวกันกับที่ฝรั่งเศสมี”
“ทั้งสองประเทศสามารถขยับขยายความไว้วางใจทางการเมืองและศักยภาพของความร่วมมือ โดยจีนพร้อมทำงานร่วมกับฝรั่งเศสเพื่อส่งเสริมความร่วมมือภายใต้กรอบงานของแผนริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” สีกล่าว “จีนให้ความสำคัญต่อความร่วมมือกับฝรั่งเศสด้วยความหวังจะเสริมสร้างความมั่นคงและความมั่งคั่งแก่โลก”
ด้านมาครงกล่าวว่าเขายินดีแลกเปลี่ยนมุมมองกับสีในประเด็นความสัมพันธ์ฝรั่งเศส-จีน และประเด็นระหว่างประเทศ รวมถึงหวังจะเพิ่มความไว้วางใจต่อกัน ยกระดับความสัมพันธ์ฝรั่งเศส-จีน และความสัมพันธ์สหภาพยุโรป-จีน ขณะเดินทางเยือนจีนเป็นครั้งแรก
“ฝรั่งเศสพร้อมมีส่วนร่วมในแผนริเริ่มฯ อย่างแข็งขัน” มาครงกล่าว “ฝรั่งเศสจะทำงานร่วมกับจีนเพื่อแก้ไขปัญหาความท้าทายต่างๆ ของประชาคมระหว่างประเทศ อาทิ การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก” โดยเสริมว่าการเยือนจีนครั้งนี้จะเป็นหมุดหมายใหม่ในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ฝรั่งเศส-จีน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 8-10 ม.ค. โดยเขาเดินทางถึงนครหลวงปักกิ่งในช่วงบ่ายวานนี้ หลังจากใช้เวลาราวครึ่งวันเยี่ยมชมสถานที่สำคัญของนครซีอาน เมืองเอกของมณฑลส่านซีทางจีนตะวันตกเฉียงเหนือ