สืบดินคู่ฟ้า
(The Inheritance of king’s Virtue)
คีตธรรมเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
แห่งองค์อัครศิลปิน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
และเพื่อมอบเป็นขวัญกำลังใจให้แก่พสกนิกรผู้จงรักภักดีในพระองค์ทุกคน
…
ขับร้องคีตธรรม : ปาน ธนพร แวกประยูร
คำประพันธ์ : ฐิตวํโสภิกขุ วัดปทุมวนาราม
ทำนอง : เดชาณัฏฐ์ ธีรดุริยสฤษฏ์
เรียบเรียง : เจษฎา สุขทรามร
มิวสิกวิดีโอ : ภัทธิ บัณฑุวนิช และ ว่าวน้อย โปรดักชั่น
Translators:
สุดารัตน์ เข็มกลัด
สุเมธินท์ แสงไตรรัตน์นุกูล
ชัชรพล เพ็ญโฉม
….
สืบดินคู่ฟ้า อีกหนึ่งผลงานคีตธรรมแห่งหัวใจ ที่เหล่าศิลปินและจิตอาสากลุ่มบัวลอย ในโครงการปทุมมามหาสิกขาลัย วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ภายใต้การสนับสนุนอย่างเป็นทางการของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้รังสรรค์ขึ้น เพื่อเป็นคีตธรรมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ แห่งองค์อัครศิลปิน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเพื่อมอบเป็นขวัญกำลังใจให้แก่พสกนิกรผู้จงรักภักดีในพระองค์ทุกคน โดยเนื้อหาคีตธรรมนั้น ฐิตวํโสภิกขุ วัดปทุมวนาราม ท่านผู้ประพันธ์ ได้นำฉากเหตุการณ์ และความรู้สึกของพสกนิกรที่มีต่อเหตุการณ์ในคืนแห่งการสวรรคตมาถ่ายทอด พร้อมทั้งได้น้อมอัญเชิญชื่อเพลงพระราชนิพนธ์รวม ๑๖ เพลง มาเรียงร้อยเป็นเนื้อหาต่างๆ โดยเฉพาะท่อนจำของเพลง ท่านผู้ประพันธ์ได้อัญเชิญพระราชดำรัส ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงพระราชทานแก่บุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคล ณ ศาลาดุสิตาลัย สวนจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต เมื่อวันจันทร์ที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๓๘ โดยพระองค์ทรงมีพระราชปรารภถึงเหตุการณ์สิ้นพระชนม์ ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เรียงร้อยออกมามาเป็นท่อนจำของคีตธรรมสืบดินคู่ฟ้าโดยคำประพันธ์สะท้อนให้เห็นว่าเราทุกคนล้วนมีความตาย มีความพลัดพราก มีการจากลา เป็นของธรรมดาสิ่งที่สำคัญคือผู้ที่มีลมหายใจต่อนั้น ต้องมีสติ ต้องดำรงซึ่งความดีและสานต่อพระราชปณิธานให้เกิดความยั่งยืนต่อไป ให้สมกับพระบรมราโชวาทที่ทรงพระราชทานไว้เป็นข้อคิดสำคัญหากเผชิญกับความพลัดพราก ดังมีใจความส่วนหนึ่งว่า “ที่สวรรคตก็ทำตามที่ท่านรับสั่ง แม่แก่แล้ว จะตายเมื่อไหร่ก็ได้…เราตายแล้ว ห้ามร้องไห้ ไม่ให้ร้องไห้ เพราะเป็นของธรรมดา คนเราก็ต้องตาย แต่ว่าตอนหลังนี่ ที่เห็น ท่านทรุดลง ทรุดลง ท่านจะอยู่ไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากให้ท่านสิ้น อย่างไรก็ตามเมื่อสิ้น ก็เป็นของธรรมดา เราก็อาลัยเป็นของธรรมดาเหมือนกัน ฉะนั้น ที่ท่านสิ้น แล้วก็ได้เห็นความรัก ความนับถือที่คนทั้งชาติมีต่อท่านก็ปลื้มใจ…”
…..
ปวงข้าพระพุทธเจ้า น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ข้าพระพุทธเจ้าในนามคณะศิลปิน คณะผู้อุปถัมภ์ และจิตอาสากลุ่มต่างๆ
ในโครงการปทุมมามหาสิกขาลัย ภายใต้การดูแลของวัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร
และการสนับสนุนอย่างเป็นทางการของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์