เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม เว็บไซต์บิสซิเนสอินไซเดอร์ระบุว่า ภารกิจที่ถ้ำหลวง-นางนอน จ.เชียงราย นอกจากจะสามารถช่วยเหลือ 12 นักฟุตบอลทีมหมูป่าอะคาเดมีและโค้ชได้แล้ว ยังเป็นการรักษาชื่อเสียงของรัฐบาลไทยไว้ได้อีกด้วย
ผลสำรวจคะแนนนิยมที่มีต่อรัฐบาลร่วงลง โดยแตะระดับต่ำสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และรัฐบาลยังไม่สามารถกลับสู่การปกครองแบบประชาธิปไตยได้ตามที่ให้สัญญาไว้ โดยการเลือกตั้งทั่วไปกำหนดว่าจะมีขึ้นในต้นปีหน้า ทำให้ภารกิจช่วยหลือทีมหมูป่าอะคาเดมีที่ประสบความสำเร็จจากความร่วมมือร่วมใจของอาสาสมัครจากทั่วโลกและสมาชิกหน่วยซีลของกองทัพได้ช่วยหนุนส่งสิ่งที่รัฐบาลต้องการ
นายกานต์ ยืนยง นักวิชาการของสยามอินเทลลิเจนซ์ยูนิต (เอสไอยู) บอกกับรอยเตอร์ว่า “เรื่องนี้มีส่วนช่วยสร้างความนิยมในตัวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี”
“เมื่อทหารจำนวนมากออกมาช่วยเหลือผู้คน ผู้คนจะมองว่ากองทัพเป็นสถาบันที่เชื่อถือพึ่งพาได้” นายกานต์กล่าว
ความสามารถของกองทัพในการนำและกอบกู้สถานการณ์ฉุกเฉินจนสำเร็จอย่างรวดเร็วถือเป็นสิ่งที่น่ายินดีเมื่อเทียบกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เชื่องช้า
“กองทัพเป็นกลไกบริการด้านสาธารณะที่สำคัญในฐานะผู้ให้ความช่วยเหลือในช่วงเวลาที่เกิดภัยพิบัติอย่างเช่นครั้งนี้ ทำให้ผู้คนมองกองทัพในทางบวกเมื่อให้บริการพลเรือน” เอม สินเพ็ง นักวิชาการแห่งมหาวิทยาลัยซิดนีย์กล่าว และว่า “มีแนวโน้มที่คนนอกรัฐบาลจะมองข้ามไปว่าไทยเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบทหารอย่างเข้มงวด”
อย่างไรก็ตาม เอมปฏิเสธแนวคิดที่ว่าพล.อ.ประยุทธ์ได้ทำหรือพยายามจะรับความดีความชอบจากความสำเร็จครั้งนี้
“นายกรัฐมนตรีรักษาระยะห่างได้ดี โดยปล่อยให้ทีมกู้ภัยมีสมาธิกับงานที่ทำและพยายามไม่แทรกแซงเอาความดีความชอบให้รัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องชื่นชม” เอมกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายเอลเลียต เบรนแนน นักวิจัยแห่งสถาบันการพัฒนานโยบายและความมั่นคงในสวีเดนบอกว่า ดูเหมือนว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ต้องทำอะไรมากในการได้ประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ เนื่องจากสถานการณ์เช่นนี้มักจะกระตุ้นอารมณ์ร่วมที่มีอยู่แล้วให้พุ่งถึงจุดสูงสุด
“เรื่องราวเช่นนี้ให้ประโยชน์ในแง่บวกอยู่แล้ว ไม่น่าแปลกใจที่ประชากรที่มีความสุขจากเหตุการณ์นี้จะชื่นชมผู้มีอำนาจที่ควบคุมสถานการณ์ในปัจุบัน ซึ่งอาจแปรเปลี่ยนเป็นข่าวดีสำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรคที่อยู่ฝ่ายรัฐบาลทหาร” นายเบรนแนนกล่าว
นอกจากนี้หลายๆ ประเทศที่ช่วยเหลือในปฏิบัติการครั้งนี้ อาทิ สหรัฐ อังกฤษ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น จีน พม่า ลาว ยังได้ผลประโยชน์ทางการทูตและชัยชนะด้านซอฟต์พาวเวอร์ในสายตาคนจำนวนมากทั่วโลกอีกด้วย