วันเสาร์ 23 พฤศจิกายน 2024
  • :
  • :
Latest Update

เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้คือสายเลือดเดียวกัน – Pat Hemasuk

ในภาพอาจจะมี 7 คน

ข่าวต่างประเทศชิ้นนี้คือข่าวที่ผมไม่แปลไม่ได้ครับ และเป็นสิ่งที่คนทั้งโลกนี้อยากเห็นสองเกาหลีได้รวมตัวกันอีกครั้งเป็นหนึ่งเดียว เลือดนั้นข้นกว่าน้ำ เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้คือสายเลือดเดียวกัน ภาษาเดียวกัน ร่วมปู่ย่าตายายเดียวกัน แต่ต้องแยกออกจากกันเพราะสหรัฐส่งทหารเข้าแทรกแซงรัฐบาลพลเรือนเกาหลี เมื่อปี 1945 และแบ่งเกาหลีออกเป็นสองส่วนโดยไม่ถามความสมัครใจของประชาชนเกาหลีแม้แต่น้อยโดยใช้มติของชาติตะวันตกในการประชุมพอตสดัม ต่อมาสหรัฐเข้าป่วนกิจการภายในของเกาหลีจนเกิดความล้มเหลวในการจัดการเลือกตั้งเสรีทั่วคาบสมุทรเกาหลีในปี 1948 นั่นคือจุดเริ่มต้นก่อสงครามที่สหรัฐและสหประชาชาติเข้าไปสร้างด้วยข้ออ้างของการต่อต้านคอมมิวนิสต์จีนและรัสเซีย จนเกาหลีย่อยยับไปทั้งประเทศจนต้องแยกออกจากกันที่เขตปลอดทหาร DMZ เมื่อปี 1953

ในในการแข่งโอลิมปิกฤดูหนาวในปีนี้ สองเกาหลีตกลงที่จะรวมทีมกันไม่แยกออกเป็นเหนือและใต้ นั่นคือก้าวแรกของการรวมประเทศอย่าเป็นรูปธรรมหลังจากที่ทั้งสองประเทศต่างก็มีกระทรวงรวมประเทศมาหลายสิบปี ค่ำวานนี้วันที่11 ก.พ. วงออร์เคสตราจากเกาหลีเหนือได้ขึ้นแสดงคอนเสิร์ตเป็นครั้งที่ 2 เพื่อเฉลิมฉลองโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 ที่กรุงโซล เกาหลีใต้ ปธน.มุนแจอินของเกาหลีใต้ คิมยองนัม ผู้นำระดับสูงจากเกาหลีเหนือ และคิมโยจอง น้องสาวของคิมจองอึน ได้ร่วมกันชมการแสดงในครั้งนี้ด้วย ซอฮยอน นักร้องสาวเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังของเกาหลีใต้จากวง Girls’ Generation ขึ้นเวทีขับร้องเพลงร่วมกับนักร้องและวงดนตรีของเกาหลีเหนือ และที่เป็นไฮไลท์ของงานคือนักร้องจากสองเกาหลีร่วมกันร้องเพลง “ความปรารถนาของเราคือการรวมชาติ” เรียกน้ำตาจากผู้นำทั้งสองประเทศ

ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน ปธน.มุนแจอินได้ตอบรับคำเชิญของคิมจองอึนที่เชิญเขาไปพบที่กรุงเปียงยางแล้ว เป็นข่าวดีที่โลกทั้งใบจะเห็นสอง ปธน.ต่างจับมือกันแน่นอนในเร็ววันนี้ แต่งานนี้ตัวอิจฉาอย่างญี่ปุ่นและผู้ร้ายตลอดกาลอย่างสหรัฐคงไม่มีความสุขนักหรอกครับกับข่าวแบบนี้

เริ่มที่ตัวอิจฉาก่อน ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เรียกร้องให้เกาหลีใต้กลับมาซ้อมรบรวมกับสหรัฐต่อหลังจากที่หยุดไปเนื่องจากเกาหลีใต้ไม่ให้ความร่วมมือในการใช้กำลังทางการทหารบีบบังคับเกาหลีเหนือของสหรัฐและญี่ปุ่น แต่ ปธน.มุนแจอิน ปฏิเสธคำชวนของนายอาเบะ ปธน.มุนแจอินบอกกับนายอาเบะว่า นี่เป็นกิจการภายในประเทศของเกาหลีใต้ คำแนะนำของอาเบะนั้นเป็นการล่วงล้ำอำนาจอธิปไตยของเกาหลีใต้

คราวนี้มาที่ตัวร้ายบ้าง จิม แมตทิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ได้ให้ความเห็นเมื่อวานนี้ว่าความสัมพันธ์ของสองเกาหลีไม่ได้สร้างความขัดแย้งอะไรกับสหรัฐ แต่สหรัฐยังคิดว่าเร็วเกินไปที่จะพูดว่าโอลิมปิกคือวิธีที่จะลดความตึงเครียดระหว่างสองเกาหลี สหรัฐยังคงใช้อำนาจกดดันเกาหลีเหนือทุกวิถีทางทั้งคว่ำบาตรหรือใช้ถ้อยคำรุนแรง เพื่อให้เกาหลีเหนือเลิกผลิตอาวุธนิวเคลียร์ แต่คิมจองอึนก็ยังจัดพิธีสวนสนามที่แสดงให้เห็นถึงการจะเอาอาวุธนิวเคลียร์มาใช้ที่แปลกมากถ้าเกาหลีเหนือจะแสดงไมตรีจิตอันอบอุ่นกับเกาหลีใต้
ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวว่าญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ซึ่งเป็นมิตรของสหรัฐ ต่างก็ยังคงดำเนินการโดดเดี่ยวเกาหลีเหนือทุกทางจนกว่าเกาหลีเหนือจะเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์

*************************************************

ผมเคยสรุปเอาไว้ใรเรื่องนี้แล้วว่าตี๋คิมไม่โง่หรอกครับ อย่าลืมว่าตี๋คิมนั้นเรียนจบจากวิทยาลัยในสวิสเซอร์แลนด์ มีความเข้าใจในโลกตะวันตกพอตัวต่างกับสมัยของพ่อและปู่ ส่วน ปธน.มุนแจอินของเกาหลีใต้ก็เป็นสายพิราบ ประชาชนก็เบื่อที่จะมีสงครามกับเกาหลีเหนืออีกรอบถึงได้ลงคะแนนถล่มทลายเลือกพรรคนี้เข้ามา เพราะเกาหลีใต้จะย่อยยับตั้งแต่วันแรกที่มีสงครามจากการถล่มด้วยอาวุธหนักจากชายแดนที่ห่างจากกรุงโซลเพียง 50 กิโลเมตร และที่สำคัญคือตี๋คิมมีนิวเคลียร์ คนที่เดือดร้อนคือสหรัฐและญี่ปุ่น แต่เกาหลีใต้รู้ว่าถ้าไม่เป็นหุ่นเชิดให้สหรัฐและญี่ปุ่น ตัวเองจะปลอดภัยจากเกาหลีเหนือ และถ้ารวมประเทศได้ นั่นคือหลักประกันว่าสันติสุขจะกลับมาในคาบสมุทรเกาหลีอีกครั้ง เกาหลีใต้มีเงินและเทคโนโลยี เกาหลีเหนือมีแรงงานและทรัพยากร มองอย่างไรก็ไม่เห็นผลเสียเมื่อเปรียบเทียบกับการเกิดสงครามจนประเทศตัวเองพังเศรษฐกิจล่มในอนาคตถ้ายังเดินตามหลังสหรัฐ

เครดิตภาพ โคเรียเฮรัล