10 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีรายงานว่าเกิดการปะทะระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความปลอดภัยของเลบานอน หน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงเบรุต หลังเจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตาและน้ำจากรถดับเพลิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งมาประท้วงต่อการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กรณีรับรองเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล
ขณะนี้ถนนสายหลักที่นำไปสู่สถานทูตสหรัฐฯ ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกั้นไว้
รายงานของสำนักข่าวเอเอฟพีระบุว่ามีประชาชนหลายรายได้รับบาดเจ็บจากก้อนหินและแก๊สน้ำตา
การประท้วงในเลบานอนก็ดำเนินมาแล้วต่อเนื่อง 3 วันเช่นเดียวกับสถานที่อื่นๆ ในเขตเวสต์แบงค์และฉนวนกาซา ทั้งนี้ เลบานอนมีผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์และลูกหลานอาศัยอยู่หลายร้อยคน ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้มีผู้ที่ลี้ภัยมาตั้งแต่มีการสถาปนาอิสราเอลขึ้น
กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงส่วนมากโพกผ้าลายขาวดำ ชูธงชาติปาเลสไตน์ และตะโกนคำขวัญประณามทรัมป์
การรับรองเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลได้โหมไฟพิโรธในหมู่ประเทศอาหรับและทำให้พันธมิตรตะวันตกหลายประเทศไม่พอใจ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวได้ล้มความพยายามสร้างสันติภาพเหนือภูมิภาค และยิ่งเสี่ยงจะทำให้ภาวะไม่สงบในตะวันออกกลางยืดเยื้อออกไปอีก