จาก กระทู้พันทิพย์ รหัส 35586086 ของ สมาชิกหมายเลข 3384281 เขียน เมื่อ Siamese Talk โดยมีใจความว่า
จากกระทู้นี้
ตกลงว่า ชาวโลกเค้าคิดว่าประเทศไทยอยู่ “ฝ่ายอักษะ” ใช่ไหม ตำราเรียนบ้านเค้าเขียนอย่างงี้เลยหรือไม่
(เสิร์จ Axis Power map ก็เจอแต่ไทยอยู่ฝ่ายเดียวกับอักษะ สีเดียวกันทั้งนั้นเลยครับ
ตกลงว่า ไทยเป็นฝ่ายอักษะอย่างเป็นทางการในตำราเรียนของประเทศต่างๆใช่ไหม)
ตัวอย่าง
http://pantip.com/topic/31862066
วันนี้ผมได้ภาพนี้
เป็นที่แน่นอนแล้วว่าคนรุ่นใหม่ ยอมรับความจริง ว่า การฑูตแบบสยามสมัยก่อน เป็น นกสองหัว หรือ พูดจากะล่อน และน่าที่อับอาย ไม่น่าภูมิใจ
วันนี้ ผมรู้สึกว่าบางที่เรา ควรยอมรับว่า การฑูตแบบนั้น อาจเป็นผลกรรมทำให้ประเทศไทยเป็นแบบนี้ก็ได้ ถ้าเราไม่ใช่การฑูตแบบ Siamese Talk ปัจจุบันนี้เราอาจจะพัฒนาได้ดีกว่านี้ก็เป็นได้
บางที่เราอาจต้องเลิกการฑูตแบบนี้เสียที่ หรือไม่ครับ
หลังจากนั้นได้มีผู้ใช้ ชื่อ zodiac28 ได้ตอบกระทู้ ดั่งกล่าว โดยให้ข้อมูลน่าสนใจดังนี้
สิ่งที่อยากจะบอกให้ทราบนะครับ
1 ตอนที่ญี่ป่นยกพลขึ้นบกในไทยนั้นไทยไม่สามารถมีหน่วยทหารเต็มรูปแบบได้ในภาคใต้นับแต่ประจวบคีรีขันธ์ลงไป โดยอังกฤษทำสัญญารับรองกับไทยตั้งแต่รัชกาลที่ 5 ว่าหากเกิดอะไรขึ้นอังกฤษจะรับผิดชอบป้องกันให้เอง แต่พอญี่ปุ่นบุกมาจริงๆเราติดต่อไปอังกฤษก็บอกให้ไทยช่วยตัวเองไปก่อนและยันไว้ให้นานๆด้วยเพื่อประโยชน์ของอังกฤษ
2 ไทยเราไม่เห็นประโยชน์ที่จะต้องไปเสียกำลังทหารเพื่อผลประโยชน์ของอังกฤษและขณะเดียวกันญี่ปุ่นก็ไม่ได้จะมายึดไทยแต่อย่างใดไทยจึงยอมให้ญี่ปุ่ยยกพลผ่านได้ แต่นับจากที่ไทยประกาศให้ญี่ปุ่นผ่านได้เพียง 30 วัน กองทัพสัมพันธมิตรก็ส่งเครื่องบินมาทิ้งบอมบ์ไทยอย่างเมามัน ทั้งๆที่ไทยยังไม่ได้ประกาศสงครามกับสัมพันธมิตรเลยเป็นแต่ยอมให้ญี่ปุ่นเดินทัพผ่านเท่านั้น ไทยเราอดรนทนกับลูกระเบิดได้ 18 วันสุดท้ายก็ตัดสินใจเข้าร่วมกับฝ่ายอักษะประกาศสงครามกับอังกฤษและอเมริกา
3 ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศเราทำข้อตกลงยกเลิกสถานะสงครามกับอังกฤษและอเมริกาไป ส่งผลให้สถานะของไทยย้อนกลับไปเหมือนก่อนจะประกาศสงคราม
4 คำว่า Siamese Talk มาจากหลังสงครามโลกอังกฤษกะจะเอาไทยให้ตาย แต่ด้วยความสามารถของไทยสามารถเล่นกลจนอังกฤษหงายหลังแทบไม่ได้อะไรจากไทยเลย ทำให้อังกฤษแค้นไทยมากเลยระบายความแค้นด้วยการสร้างคำว่า Siamese Talk มาด่าไทย แต่บังเอิญว่าคนอื่นๆเขาไม่สนใจคำๆนี้เลยไม่ติดตลาดและหายไปอย่างรวดเร็วเหลือแต่เรื่องราวในประวัติศาสตร์ ปัจจุบันก็เห็นมีแต่พวกคนไทยโรคจิตที่ชอบด่าประเทศตัวเองเอาคำนี้มาใช้บ่อยๆ
5 การเจรจาการทูตของไทยในครั้งนั้นกลายเป็นบทเรียนสำคัญที่นักการทูตทุกคนจะต้องศึกษา เป็นกรณีตัวอย่างที่บรรดากการทูตทั้งโลกยกย่องในความสามารถ
6 ผลประโยชน์ของชาติสำคัญที่สุด
7 ถ้าอยากจะคุยเรื่องนี้ให้ชัดๆแนะนำให้แท็กห้องสมุดด้วยจะดีกว่านะครับ
สำหรับใครที่สนใจ สามารถไปติดตามกระทู้นี้ได้ที่
https://pantip.com/topic/35586086