สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชดำรัสพระราชทานแก่คณะบุคคลที่มาเข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคล ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต เมื่อวันพุธที่ 11 สิงหาคมพุทธศักราช 2553 ความว่า
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงติดตามเรื่องสถานการณ์น้ำอยู่ตลอดเวลา แม้ระหว่างประทับพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราชก็ไม่ทรงว่างเว้นเลย…เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมนี่เอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯให้คณะผู้บริหาร สถาบันสารสนเทศน้ำและการเกษตร เข้าเฝ้าฯ กราบบังคมทูลรายงานสรุปสถานการณ์น้ำ ได้รับสั่งให้ย้ำทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องน้ำทั่วประเทศ ให้ช่วยกันวางแผนเพื่อรับมือปัญหาน้ำที่ขาดแคลนเป็นประจำทุกฤดูแล้ง เพราะจะขาดแคลนมากขึ้นในอนาคต โดยให้คำนึงถึงการประสานประโยชน์ ไม่เน้นด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป
เวลาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงงานเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริ พระองค์ท่านจะต้องใช้แผนที่เป็นคู่มือทุกครั้ง ในห้องทรงงานที่พระตำหนักทุกๆ แห่งทั่วประเทศ จะมีแผนที่ประเทศไทยขนาดใหญ่ติดฝาห้อง และแผนที่ที่ขยายเฉพาะส่วนก็มีอีกหลายแผ่น ฉบับที่ทรงถือติดพระหัตถ์นั้น ความจริงมีขนาดใหญ่มาก เพราะทรงนำแผนที่มาต่อกันถึง 9 แผ่น หรือ 9 ระวาง แต่ทรงหาวิธีพับแบบพิเศษ จนมีขนาดที่ทรงถือได้สะดวก พลิกออกมาทอดพระเนตรได้ง่าย ทรงตรวจสอบแผนที่เสมอ ไม่ว่าจะเสด็จฯ ที่ไหน แม้ขณะทรงขับรถเอง ก็มีแผนที่วางอยู่ข้างพระองค์ตลอดเวลา
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งได้ตามเสด็จทรงงานในหลายพื้นที่ ทรงเล่าถึงเรื่องแผนที่ของในหลวงไว้ในรายการวิทยุ “พูดจาภาษาช่าง” ทางสถานีวิทยุจุฬาฯ ความว่า “…แผนที่ที่พระองค์ทรงใช้คือ มาตราส่วน 1 : 5 หมื่น สำนักงานของท่านคือห้องกว้างๆ ไม่มีเก้าอี้ มีพื้นแล้วท่านก้มอยู่กับพื้น แล้วเอากาวติดแผนที่เข้าด้วยกัน แล้วหัวกระดาษต่างๆ ท่านก็ค่อยๆ ตัดแล้วเรียงแปะเป็นหัวแผนที่เข้าด้วยกันใหม่ เพื่อจะได้ทราบว่าแผนที่ระวางไหนบ้าง…การปะแผนที่ท่านก็ทำอย่างพิถีพิถัน และถือเป็นงานที่ใครจะมาแตะต้องช่วยเหลือไม่ได้เลยทีเดียว”
สาเหตุที่ทรงโปรดทำทุกสิ่งด้วยพระองค์เองนั้น “…ท่านบอกว่าคนเป็นช่าง ช่างหมายถึงงานทำด้วยมือทั้งหลายแหล่ ซึ่งการทำอะไรด้วยมือได้ ไม่ใช่หมายความว่ามือทำเอง มันมาจากสมอง สมองสั่งให้มือทำจึงทำได้ งานช่างคืองานที่ผนวกกันระหว่างสมองกับมือ เพราะฉะนั้นต้องทำเอง ขีดเอง ลูบคลำมันไปแล้ว มันจะได้จากมือที่ลูบคลำ จากตาที่ดู ย้อนกลับมาที่สมอง ทำให้คิดอะไรขึ้นมาได้”
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รับสั่งว่า “แผนที่แต่ละแผ่นทรงหวง ท่านหวงแผนที่ของท่าน อันเดิมนั้นต้องเก็บไว้ โดยเฉพาะแผนที่ทางภาคใต้นั้นโดนฝนมา ทำให้ค่อนข้างเปื่อยยุ่ย ต้องถือด้วยความระมัดระวัง…ถ้าแผนที่นั่นเน่าเต็มทน คือโดนฝน โดนอะไรมา หลายปีหลายฤดูกาล ท่านก็ต้องย้ายข้อมูลจากแผ่นเก่ามาแผ่นใหม่ ซึ่งท่านก็ต้องทำเองอีกเหมือนกัน…ขณะที่ทรงงานจะทรงเติมข้อมูลต่างๆ ลงไปมาก และทรงแก้ไขความผิดพลาดคลาดเคลื่อนที่ทรงพบด้วย เมื่อทรงได้ข้อมูลใหม่จึงส่งตรงไปพระราชทานกรมแผนที่ทหารเสมอ…