ประกาศ งดคอลัมน์ ไทยๆ ในโลกล้วนอนิจจัง
The MATTER ตัดสินใจงดคอลัมน์ไทยๆ ในโลกล้วนอนิจจังของคุณศิริ
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
The MATTER
————————-
ดราม่าในวอลล์คุณกิตติทัชทำให้เราอยากพูดอะไรบางอย่าง
.
ที่เราโดนทำร้ายร่างกายอยู่ตลอดเวลาหลายปีที่คบกัน เราไม่เคยคิดแจ้งความเลยนะ ถึงวินาทีนี้ก็ยังไม่เคยคิดแจ้งความ (อ้อ แต่หลังจากนี้ยังไม่แน่ใจค่ะ)
.
ตลกที่เขากล้าออกมาพูดว่าไม่รู้ว่าเรื่องที่เขาทำร้ายเราเกิดขึ้นจริงไหม (เขาบอกคนอื่น ๆ ว่าเป็นเพราะเราไม่เคยระบุชื่อเขาตรง ๆ )
.
ตลกที่เขาไม่เอา พ.ร.บ คอมฯ แต่จะฟ้อง พ.ร.บ คอมฯ คนอื่น
.
ตลกที่เขาบอกว่าเชื่อในสันติภาพ ไม่เชื่อเรื่องการใช้ความความรุนแรง แต่กระทืบเราเหมือนหมูเหมือนหมา
.
ตลกที่คนก็ยังเป็นกำลังใจให้อาจารย์ครับ ๆ เป็นกำลังใจให้อาจารย์ค่ะ อาจารย์ที่หนูรู้จักไม่ใช่แบบนั้น อาจารย์เป็นคนดี ไม่ทำแบบนั้นหรอก โคตรขำ พวกคุณรู้จักอาจารย์ของคุณแค่ไหนหรอ เชื่อว่าใครเป็นคนดีคนนั้นเลยไม่มีวันทำเลว (ตรรกะคุ้น ๆ มั้ยอ่ะ) ลองถามเขาตรง ๆ สิ “ตกลงอาจารย์กระทืบลูกแก้วจริงไหมคะ?” หนูอยากรู้เหมือนกันว่าพี่จะตอบว่าอะไร
.
ตลกดีที่คนอื่น ๆ แยกไม่ออกว่าการเป็นเพื่อนที่ดี เป็นพี่ที่น่ารัก เป็นอาจารย์ที่เก่ง เป็นนักวิชาการที่มีอนาคต เป็นคอลัมนิสต์นักเขียนที่มีผลงาน ฯลฯ ก็ไม่ได้มีอะไรลบล้างหรือเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงที่ว่าเขาทำร้าย เขากระทืบเรา เราไม่ได้ต้องการอะไร นอกจากการออกมายอมรับความจริงจากเขา
.
ตลกที่เขาเคยทำร้ายร่างกายแฟนเก่าคนก่อนหน้าเรา แต่เขาก็บอกเราว่าเขาไม่ได้ทำ และเราก็เชื่อ เราก็คิดว่าเขาก็คงบอกแฟนใหม่ว่าเขาไม่ได้ทำเหมือนกัน เรายินดีด้วยจากใจจริง ๆ ถ้าคุณจะไม่โดนกระทำเหมือนแฟนคนที่ผ่านๆ แต่มันจะตลกมากถ้าเขาไม่กล้ายอมรับความจริงแม้แต่กับแฟนตัวเอง
.
ตลกที่ล่าสุดที่เราออกมาพูดเรื่องการโดนทำร้ายเมื่อปีที่แล้วในเพจมนุษย์กรุงเทพฯ เขายังโทรมาด่าเราอยู่เลยว่า เราก็แค่อยากดังที่ออกมาพูด เขามีความดีเยอะแยะ ทำไมเลือกพูดแต่เรื่องไม่ดี (คนเราต้องลงทุนโดนกระทืบเพื่อให้ตัวเองได้ดัง มันคุ้มมั้ยอ่ะคะ ไม่แน่ใจ)
.
ตลกที่เขาเคยท้าเราตอนกำลังตบเราว่า “ถ้ามึงอยากเอาไปป่าวประกาศก็เอาไปประกาศเลย ไม่มีใครสนใจมึงหรอก” หรือ “อยากแจ้งความก็แจ้งเถอะ กูไม่กลัวมึง”
.
ถ้าวันนี้เขากล้าออกมายอมรับเราจะไม่ติดใจอะไรเลยนะ แต่การที่เขาไม่กล้าแม้แต่จะยอมรับว่าเขาตบเรา ทำร้ายเรา กระทืบเราจริง มันทำให้เราโกรธและเสียใจยิ่งกว่าตอนโดนเขาทำร้ายอีก และเราว่านี่แหละคือตัวตนที่จริงที่สุดของเขา คนขี้ขลาดที่กำลังหลอกตัวเองคนหนึ่ง
.
ถ้าบอกอะไรเขาได้ เราก็อยากบอกว่า “พี่ หนูเสียใจที่หนูรักและเชื่อในตัวพี่มาตลอด หนูผิดหวังเหลือเกินที่พี่ไม่กล้าแม้แต่จะยอมรับความจริง”
——————————————–
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9610000009959
ลือสนั่น! คอลัมนิสต์ลิเบอรัลชื่อดัง ที่จู่ๆ ออกมาจิกกัดเพลง “BNK48” พร้อมเหน็บแนมชาติตัวเอง จนถูกโลกออนไลน์ถล่มยับ ที่แท้เป็นพวกชอบทำร้ายผู้หญิง แฟนเก่าแฉตลอด 3 ปีที่คบกัน ถูกกระทำอย่างหนัก 7 ครั้ง มีทั้งบีบคอจนหายใจไม่ออกเกือบตาย ตบกลางฟุตบาท กระทืบ เอารองเท้าฟาดหน้า
วันที่ 30 ม.ค. จากกรณีที่ นายศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ นักวิชาการ อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี ซึ่งเป็นคอลัมนิสต์ของเว็บไซต์ thematter ได้เขียนคอลัมน์ชื่อว่า “ความเป็นไทยที่แท้ทรูอยู่ตรงไหนใน ‘เพลงชาติ’ ของ BNK48?” โดยเนื้อหาได้หยิบยกบทเพลงเพลงหนึ่งของ BNK48 วงเกิร์ลกรุ๊ปที่กำลังเป็นที่นิยมมากในขณะนี้มาวิจารณ์ถึงเนื้อเพลงพร้อมกับเหน็บแนมประเทศไทย เช่น การระบุว่า เพลงพูดถึงย่านศิวิไลซ์แต่กลับไม่พูดถึงชุมชนแออัด หรือมีชื่อวัดมากมายจนแทบไม่เห็นหัวคนนับถือศาสนาอื่น แถมยังมีแต่วัดของคนเมืองแต่ไม่พูดถึงวัดที่โทรมๆ (คลิกอ่านคอลัมน์ฉบับเต็ม)
หลังจากคอลัมน์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ ก็ได้ถูกสังคมออนไลน์วิจารณ์หนักในทำนองว่า เป็นการโยงเรื่องที่ดูไร้แก่นสาร จิกกัดเพลงเพียงเพื่อต้องการโหนกระแสความดังของวงดังกล่าว
นอกจากนี้ทางเพจ “เสื้อแดงน่ารักมากค่ะ” ยังมีการลากไส้ยาวไปถึงกรณีที่ น.ส.โชติรส นาคสุทธิ์ หรือ ลูกแก้ว นักเขียนอิสระ เคยเล่าประสบการณ์โดนแฟนเก่าทำร้ายผ่านทางเพจ “มนุษย์กรุงเทพ” เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2560 ว่าแฟนเก่าที่ทำร้ายร่างกายคือ นายศิริพจน์ นั่นเอง
ซึ่ง น.ส.โชติรส เองก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กในทำนองว่ายอมรับว่าเป็นความจริง โดยระบุว่า “ดราม่าคอนเทนต์ลิเบอรัลแซะ BNK48 แต่โชติรสดันโดนขุดเรื่องที่เคยโดนเขาทำร้ายร่างกาย ไปด่า เอ๊า งงในงงไหมคะคุณผู้ชม? เออนี่ก็งง! งงและโกรธด้วย โกรธที่เคยโดนเขาทำร้ายหรอ? อ่อ เปล่า โกรธที่เขาแซะBNK แบบไม่รู้บริบท นี่เป็นน้องหลามตันโอชินะ”
สำหรับเรื่องราวของ น.ส.โชติรส โดนแฟนเก่าทำร้ายที่เคยเปิดเผยไว้มีใจความสำคัญว่า ตลอด 3 ปีที่คบกัน ถูกทำร้ายร่างกายหนักๆ 7 ครั้ง มีครั้งหนึ่งตวาดกันทางโทรศัพท์ พอมาเจอตัว เขาปรี่เข้ามาบีบคอ กระชากลงบนเตียง ตบๆๆ แล้วบีบคออีกจนหายใจไม่ออก เราบอกไปว่า ‘พอเถอะพี่ หนูจะตายแล้ว’ เขาบอกว่า ‘จะตายก็เรื่องของมึง!’ เราตะโกนเรียกญาติของเขาที่อยู่ห้องข้างๆ ในบ้านหลังเดียวกัน พอหลุดมาได้ เราบอกตัวเองว่าจะไม่กลับไปอีกแล้ว พออีกวันเขาทักมา เรารักเขา เลยกลับไปคบกันเหมือนเดิม
แต่พอมีครั้งแรกก็มีครั้งต่อมา อีกครั้งเกิดในที่สาธารณะ พอทะเลาะกัน เราเดินหนีออกจากร้านอาหาร เพราะกลัวโดนทำอะไร เขาตามมากระชาก แล้วตบเราริมฟุตบาท เราตะโกนขอความช่วยเหลือ ‘ช่วยด้วย โทรเรียกตำรวจให้หน่อย เราโดนทำร้าย’ เราแผลเต็มตัวไปหมด มีแต่คนมุง ไม่มีใครช่วยเลย ผ่านไปประมาณสิบนาทีมีสายตรวจผ่านมา เลยได้ไปสถานีตำรวจ ทีแรกตำรวจจะให้สงบสติอารมณ์แล้วกลับไปด้วยกัน เรายืนยันว่าขอลงบันทึกประจำวัน แต่ด้วยความไม่รู้ หลังจากนั้นเลยไม่ได้ดำเนินการอะไรต่อ
มีอีกครั้งที่ค่อนข้างหนัก พอทะเลาะกัน เขากระทืบ เราหนี เขากระชาก เราล้ม เขากระทืบซ้ำ นั่งทับ แล้วหยิบรองเท้ามาฟาดหน้า ฟาดซ้ำๆ ด่าด้วยคำหยาบคายจนเหมือนเราไม่ใช่คน