การพบกันครั้งประวัติศาสตร์ระหว่าสองผู้นำก็เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาระหว่าง คิม จองอึน และโดนัล ทรัม ผมอยากจะเริ่มข่าวล่าสุดที่มีการเปิดเผยว่าการพบหน้ากันในนาทีแรกนั้นทั้งสองฝ่ายพูดอะไรกันที่ห้องรับรองของโรงแรมคาเปลล่าเช้าวันนี้
ทั้งสองเดินเข้าไปจับมือกัน 12 วินาที แล้วยิ้มเพื่อให้สื่อถ่ายภาพ หลังจากนั้น คิมจองอึนก็ได้กล่าวเป็นภาษาอังกฤษโดยไม่ต้องใช้ล่ามว่า
ยินดีที่ได้พบคุณ มิสเตอร์เพรสซิเดนท์ “Nice to meet you Mr President,”
ทรัมป์ได้ยกมือขึ้นแตะแขนของคิมแล้วตอบว่า ผมรู้สึกดีมาก เรากำลังจะได้พูดคุยครั้งสำคัญและจะบรรลุจุดมุ่งหมาย “I feel really great. We’re going to have a great discussion and will be tremendously successful,” และเป็นเกียรติแก่ผมมากที่เราจะมีความสำพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ ผมไม่สงสัยเลย “It’s my honour and we will have a terrific relationship, I have no doubt.”
คิมได้ตอบกลับว่า ไม่ง่ายเลยที่จะได้พบกันที่นี่ มีอุปสรรคหลายเรื่อง แต่เราก็ฝ่าฟันมันมาได้จนมาถึงจุดนี้ “It was not easy to get here … there were obstacles but we overcame them to be here.”
ทรัมป์ได้ตอบกลับด้วยการยิ้มแล้วยกนิ้วโป้ง Thumbs up ให้คิม
หลังจากนั้นการเจรจาก็เริ่มขึ้นโดยทั้งสองฝ่ายใช้ภาษาของตัวเองโดยมีล่าม ซึ่งการประชุมครั้งนี้เป็นการพบกันโดยไม่มีผู้อื่นเข้ามาด้วย ประมาณครึ่งชั่วโมง และออกมาอีกห้องที่มีเจ้าหน้าที่ทางการทูตทั้งสองฝ่ายนั่งรออยู่แล้ว ทั้งสองผู้นำได้นั่งลงกลางกลุ่มเจ้าหน้าที่ของตัวเองแล้วยื่นมือมาจับกันให้สื่อถ่ายภาพอีกรอบ แล้วเริ่มพูดคุยในเรื่องของการพิธีการทูตต่างๆ ที่จะมีตามมา แล้วตามด้วยอาหารเที่ยง
ทรัมป์ได้กล่าว่า การประชุมดีกว่าที่ใครจะคาดคิด Summit ‘better than anybody could have expected’
ทั้งสองได้ใช้เวลาหลังอาหารเที่ยงเดินคุยกันในสวนส่วนตัวเพียงสองคน และเดินออกมาให้บรรดาช่างภาพได้เก็บภาพทั้งสอง
ทรัมป์ได้พูดกับนักข่าวว่าว่า เรามีกระประชุมที่เหนือที่จะคาดเดา มีเรื่องหลายเรื่องที่ก้าวหน้า “We had a fantastic meeting, a lot of progress,”
จากนั้นทั้งสองได้เดินจากสวนไปยังห้องที่จัดพิธีลงนาม แต่ก่อนที่จะถึงห้อง ทรัมป์ได้ชวนคิมแวะเดินไปดูรถ เดอะบีสท์ รถลิมโมประจำตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ และได้เปิดให้คิมดูภายในด้วย ทั้งสองต่างก็คุยกันแบบชื่นมื่นสองคนตัวต่อตัว โดยทั้งหมดไม่ต้องมีล่ามเข้ามาช่วยแปล หลังจากพิธีการลงนามแล้ว ทั้งสองฝ่ายก็ถ่ายรูปร่วมกันและแยกย้ายกันกลับประเทศ ซึ่งคิมได้มีกำหนดการบินกลับในบ่ายวันนี้ ส่วนทรัมป์ข่าวไม่ได้กล่าวถึง
ผมยังรอข่าวที่มากกว่านี้ครับ สำนักข่าวใหญ่ฝั่งอเมริกายังอุ้ยอ้ายอยู่ คาดว่าจะมีข่าวออกมามากกว่านี้ในช่วงหลังบ่ายสองโมง ส่วนสำนักข่าวในไทยยังไม่มีใครแปลเจาะคำสนทนา ผมน่าจะเป็นคนแรกที่แปลเอามาจากเดอะการ์เดี่ยนที่เป็นเจ้าแรกอีกเช่นกันที่ลงข่าวนี้
สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายลงนามมีส
1. The United States and the DPRK commit to establish new U.S.-DPRK relations in accordance with the desire of the peoples of the two countries for peace and prosperity.
สหรัฐและเกาหลีเหนือตกลงที่
2. The United States and the DPRK will join their efforts to build a lasting and stable peace regime on the Korean Peninsula.
สหรัฐแลัเกาหลีเหนือจะร่วมม
3. Reaffirming the April 27, 2018 Panmunjom Declaration, the DPRK commits to work towards complete denuclearization of the Korean Peninsula.
คำประกาศที่ปันมุมจองในวันท
4. The United States and the DPRK commit to recovering POW/MIA remains, including the immediate repatriation of those already identified.
สหรัฐและเกาหลีตกลงที่จะค้น
เครดิตภาพ เอพี
———————–
ผมจะฟังสด ถามตอบสื่อ แล้วจะอีดิทไปเรื่อยๆ ครับ
*** ทรัมป์แจ้งสื่อว่ายังไม่ยกเลิกแซงชั่นเกาหลีเหนือ
*** ทรัมป์บอกว่าครั้งนี้สหรัฐโอนอ่อนให้เกาหลีเหนือมากแล้ว
*** ทรัมป์ยืนยันว่าไม่มีการคุยเรื่องปลดอาวูธนิวเคลียร์ (อย่างที่ผมบอกไว้ในสเตตัสที่แล้วครับ ว่า complete denuclearization นั้นต้องตีความระหว่างบรรทัดให้ดี)
*** เกือบสามสิบนาทีจนถึงเวลาที่ผมแปลไลฟ์สดนี้ ทรัมป์พูดแง่ดีของคิมตลอดเวลา ไม่มีการถล่มคิมเหมือนที่ผ่านมา หรือแม้กระทั่งคล้ายกับเมื่อวานนี้เลย ผมเชื่อว่าทรัมป์ประทับใจบุคลิกหรือบางคำพูดของคิมในครึ่งชั่วโมงที่พบกันก่อนเที่ยงที่ผ่านมา
*** ช่วงหนึ่งทรัมป์ได้พูดถึงจีน และหวังว่าจีนน่าจะพอใจในการที่เขาแก้ปัญหานิวเคลียร์ในครั้งนี้ และเรียก เกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น ว่าเป็นเพื่อนที่ดีในการแก้ปัญหาครั้งนี้โดยใช้คำว่า Good friend
*** นักข่าวถามว่าคิมจองอึนเป็นผู้ปกครองที่ข่มเหงประชาชนให้อดอยาก ทำไมยังชื่นชมคิมจองอึน ทรัมป์ตอบว่าคิมมีความพิเศษ และเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่คิมมีความสนใจที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ผ่านมา
*** ในการพูดคุยไม่มีการพูดถึงการถอนทหารอเมริกันออกจากเกาหลี แต่สหรัฐก็มีแผนที่จะนำทหารกลับบ้านอยู่แล้ว
*** ข้อตกลงที่ได้ลงนามไปถือว่าสมบูรณ์แบบแล้ว และต้องยกความดีให้ทีมใหม่ของสหรัฐที่ทำให้กระประชุมครั้งนี้ประสพความสำเร็จ
*** นักข่าวถามว่านอกจากนิวเคลียร์แล้วได้คุยเรื่องสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่าได้คุยเรื่องนี้ในการประชุม มีคนโดนลักพาตัวไปมากมาก และตายในเกาหลีเหนือ เราต้องนำร่างเขากลับบ้าน (มันเรื่องเดียวกันหรือเปล่าหว่า แต่ผมฟังไม่ผิดหรอกครับ)
*** นักข่าวถามว่าจะไปเปียงยางหรือไม่ ทรัมป์บอกว่าไปแน่นอน และจะเชิญ คิมจองอึน ไปทำเนียบขาวด้วย
*** นักข่าวได้ถามว่าทรัมป์เคยบอกว่าเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่โหดร้ายกับประชาชนมากที่สุดในโลก ยังยืนยันไหม ทรัมป์แก้ตัวแทนคิมว่า ทุกประเทศก็มีเรื่องโหดร้ายกันทุกประเทศ การมาครั้งนี้คุยเน้นเรื่องนิวเคลียร์เท่านั้น และมันจบแล้วเรื่องนิวเคลียร์
*** นักข่าวย้ำเรื่องถอนทหารอีกครั้ง ทรัมป์ตอบว่าระยะทางจากฐานทัพเกาะกวมมาถึงย่านนี้ใช้เวลาถึงหกชั่วโมงดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องคงทหารเอาไว้ก่อน
*** ทรัมป์ได้ชืนชมและแก้ตัวให้เกาหลีเหนือว่า เกาหลีเหนือเสียสละมามาก สำหรับทรัมป์เองที่ต้องมาที่นี่ก็เพราะให้ความสำคัญกับปัญหา ไม่ใช่เป็นการยอมอ่อนข้อให้เกาหลีเหนือ เพราะเกาหลีเหนือแสดงความจริงใจในการทำลายสถานที่ทดสองนิวเคลียร์ในเดือนที่ผ่านมา
สาระสำคัญน่าจะหมดแล้วครับ ผมคงแปลสดให้ได้เพียงเท่านี้
\