พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2559 อันนำมาซึ่งความโศกเศร้าอย่างใหญ่หลวง เพราะพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่เคารพรักยิ่งของปวงชนชาวไทย ทรงอุทิศพระองค์เพื่อยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ของราษฎร รวมทั้งในด้านการพัฒนาประเทศ และพระปรีชาสามารถด้านเทคโนโลยี
จากกรณี เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2560 ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ เผยภาพหนังสือของราชเลขาธิการถึงนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ กำหนดวันสำหรับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก Tongthong Chandransu โดยระบุข้อความว่า…
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม กำหนดวันสำหรับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่เก้า ระหว่างวันที่ 25 ถึงวันที่ 29 ตุลาคม พุทธศักราช 2560 วันถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซึ่งเป็นวันสำคัญที่สุดของการพระราชพิธี กำหนดวันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม พุทธศักราช 2560
ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 เม.ย.60 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวไว้ ณ ทำเนียบรัฐบาล ในระหว่างการแถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดิน ตามกรอบการปฏิรูประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ว่า วันนี้ (21 เม.ย.60) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าจะมีกำหนดการสำคัญ ได้แก่ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ในเดือนตุลาคมนี้ จากนั้นจะมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในช่วงปลายปีนี้ และเมื่อเสร็จสิ้นพระราชพิธีทั้งหมดแล้ว ทุกอย่างจะเดินหน้าต่อไป
ทั้งนี้ ท่านนายกฯ ยังกล่าวอีกว่า ใน เดือน ต.ค. นี้มีกำหนดการสำคัญคือพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ และประมาณปลายปีจะมีเรื่องเกี่ยวกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก หลังจากนั้นจะเดินอย่างไรก็อยู่ที่กฎหมายลูกที่จะออกมา ซึ่งขณะได้ส่งกฎหมายลูก 2 ฉบับจากทั้งหมด 10 ฉบับเข้าสภาไปแล้ว คือกฎหมายพรรคการเมือง และกฎหมายคณะกรรมการการเลือกตั้ง แต่ยังมีกฎหมายที่จำเป็นสำหรับการเลือกตั้งอีก 2 ฉบับ คือกฎหมายเลือกตั้งส.ส.และกฎหมายการได้มาซึ่งส.ว. ทั้งนี้ ถ้าออกมาครบทั้ง 4 ฉบับเมื่อไหร่ จะสามารถนับหนี่งการเลือกตั้งได้
ทั้งนี้ สำหรับกำหนดการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพนั้น ให้รอฟังในวันประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในวันที่ 25 เม.ย.60 นี้ เพราะจะมีการรายงานถึงเรื่องพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพดังกล่าวให้ครม.รับทราบต่อไป