กองทัพฟิลิปปินส์ ระบุในวันจันทร์ (14 ส.ค.) ว่าการต่อสู้ระหว่างกบฏแบ่งแยกดินแดนที่รัฐบาลให้การหนุนหลัง กับพวกกลุ่มติดอาวุธที่ฝักใฝ่กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 ราย ในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ขณะที่กองทัพกำลังหาทางฟื้นฟูความเป็นระเบียบเรียบร้อยที่เกาะมินดาเนา
พ.อ.แกร์รี เบซานา โฆษกของกองทัพฟิลิปปินส์ ระบุว่า เพื่อจัดการกับกลุ่มติดอาวุธที่ฝักใฝ่ไอเอส ทหารได้ให้การสนับสนุนด้วยปืนใหญ่แก่แนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร (MILF) ซึ่งเป็นกลุ่มกบฏมุสลิมที่รัฐบาลได้ลงนามทำข้อตกลงสันติภาพด้วย
กลุ่ม MILF และรัฐบาลได้เห็นพ้องที่จะทำงานร่วมกัน เพื่อจัดการกับบรรดากลุ่มติดอาวุธบนเกาะมินดาเนาที่ได้สวามิภักดิ์ต่อกลุ่มรัฐอิสลาม
เกาะมินดาเนาที่มีประชากร 22 ล้านคน และมีขนาดใกล้เคียงกับเกาหลีใต้ กำลังอยู่ภายใต้กฏอัยการศึกไปจนถึงสิ้นปีนี้เป็นอย่างน้อย ขณะที่ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต พยายามหยุดยั้งภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นของพวกมุสลิมหัวรุนแรง ที่เข้ายึดและเปลี่ยนภาคใต้ของฟิลิปปินส์ให้กลายเป็นแหล่งดึงดูดพวกหัวรุนแรงต่างชาติ
MILF นั้นต่อต้านบรรดากลุ่มลูกสมุนไอเอส เนื่องจากมองว่าพวกนี้กำลังบ่อนทำลายการจะมีเขตปกครองตนเองอย่างถูกต้องตามกฏหมายของชาวมุสลิมบนเกาะมินดาเนา ซึ่งนั่นจะช่วยยุติการสู้รบเกือบ 50 ปีที่มีคนตายไปกว่า 120,000 ราย พลัดถิ่น 2 ล้านราย
“จากรายงานของผู้สังเกตการณ์การหยุดยิง พบว่าทั้งสองฝ่ายมีผู้เสียชีวิตรวมกันราว 25 ราย โดยเป็นของฝั่งลูกสมุนไอเอส 20 ราย” เบซานากล่าว พร้อมทั้งบอกด้วยว่า มีฝ่าย MILF อีก 10 รายที่ได้รับบาดเจ็บ และถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลของกองทัพ
การต่อสู้นี้เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งตอนนั้นพวกนักรบเสรีอิสลามบังซาโมโร (BIFF) ได้โจมตีหมู่บ้านสองแห่ง โดยที่ระเบิดของพวกเขาได้ทำให้คนของกลุ่ม MILF ตายไป 5 ราย
เบซานาบอกว่า ทางกลุ่ม MILF ได้ตอบโต้ด้วยการเข้าปะทะกับอีกฝ่ายในช่วง 6 วันที่ผ่านมา โดยมีกองทัพยิงปืนครกให้การสนับสนุน
ทางรัฐบาลและกลุ่ม MILF นั้นเห็นพ้องกันในเรื่องร่างกฏหมายพื้นฐานบังซาโมโร ซึ่งจำเป็นจะต้องได้รับอนุมัติจากฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อสร้างเขตปกครองตนเองของชนกลุ่มน้อยโมโรในฟิลิปปินส์ โดยจะมีอำนาจด้านการบริหาร ด้านนิติบัญญัติ รวมถึงการดูแลจัดสรรงบประมาณของตนเอง
ด้านกลุ่ม BIFF นั้นแยกตัวออกมาจากกลุ่ม MILF เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับกระบวนการสันติภาพ และต้องการจะให้มีรัฐอิสลามในภาคใต้ของฟิลิปปินส์
กองทัพนั้นเป็นกังวลเรื่องความเป็นไปได้ที่กลุ่ม BIFF ซึ่งแม้จะเล็กกว่าและขาดการจัดการที่ดี อาจไปเข้าร่วมกับกลุ่มที่ใหญ่กว่าและเข้มแข็งกว่าอย่าง “มาอูเต”
กลุ่มมาอูเต ที่ได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธจากกลุ่มอาบูไซยาฟ ได้ยึดครองพื้นที่ใจกลางด้านการค้าของเมืองมาราวีเอาไว้ โดยที่ยันการปะทะและโจมตีทางอากาศของกองทัพมานานกว่า 80 วันแล้ว ซึ่งมีจำนวนผู้เสียชีวิตไปแล้ว 700 ราย พลัดถิ่นอีกประมาณ 600,000 ราย
เจ้าหน้าที่ของกองทัพได้ประเมินในวันจันทร์ว่า มีพวกกลุ่มติดอาวุธยังเหลืออยู่ในมาราวีประมาณ 20-40 คน และเชื่อว่าได้จับตัวประกันจำนวนมากไว้เป็นโล่ห์มนุษย์ กลายเป็นงานที่ซับซ้อนสำหรับกองทัพฟิลิปปินส์ ที่ได้รับการสนับสนุนทางเทคนิคจากสหรัฐฯ
กองทัพฟิลิปปินส์ระบุว่า กบฏกลุ่มนี้กำลังจะหมดทางเลือก และอาจทำการติดระเบิดไว้บนตัวประกัน แล้วทำการจุดระเบิดหากถูกทหารล้อมที่มั่น