วันเสาร์ 23 พฤศจิกายน 2024
  • :
  • :
Latest Update

สังคมไทยกำลังเผชิญ การใช้ Weaponization of social media เพื่อประโยชน์ทางการเมือง

ปรากฏการณ์ในโลกออนไลน์เกี่ยวกับสังคมไทยกำลังเผชิญการใช้ Weaponization of social media เพื่อประโยชน์ทางการเมือง ที่นำมาสร้างความแตกแยกในบ้านเมือง คนไทยทำลายกันเองโดยใช้เครื่องมือ social media และBig Data ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ

สังคมไทยกำลังเผชิญ การใช้ Weaponization of social media เพื่อประโยชน์ทางการเมือง ฝากเพื่อนๆ ช่วยกันหาหนทางทำความเข้าใจ กับคนรุ่นใหม่ ให้รู้เท่าทัน ไม่ตกเป็นเหยื่อของกลไก ที่ถูกนำมาใช้ สร้างความแตกแยกในบ้านเมือง ที่นับวันยิ่งเผชิญความท้าทาย ที่คนไทยด้วยกันเองหันมาทำลายกันเอง เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง

ที่คิดเอาชนะกัน ด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า “social media” ทั้งที่เราเกิดและเติบโต บนผืนแผ่นดินเดียวกัน ได้ประโยชน์จากแผ่นดินนี้ร่วมกัน แต่เรากำลังเข่นฆ่ากัน ด้วยสงครามวาทกรรม จากเครื่องที่เรียกว่า”social media” ซึ่งเดิม เขาใช้กับการปฏิบัติในการทหาร ที่เรียกว่า”Imformation Opération หรือ I O “ เป็นการใช้ โครงข่ายอินเตอร์เนตและอิเลคโทรนิกส์ จิตวิทยามวลชน เพื่อสร้างอิทธิพลในการตัดสินใจของฝ่ายตรงข้าม

ปัจจุบันมี Big Data เก็บรวบรวมข้อมูล และประมวลวิเคราะห์ข้อมูล และนำไปใช้ประโยชน์

(ประเด็นคือ big data มีความสามารถในการประมวลผล)ทำให้ทราบถึงพฤติกรรม รสนิยม ความคิด ความสนใจ ความเชื่อ ของคนในสังคมนั้น

เหมือนเรารู้จักใครสักคนลึกๆ เราจะรู้ว่า เราต้อง พูดหรือสื่อสารอย่างไร .. ให้เขาคล้อยตามเรา

เมื่อนำมาพัฒนาภายใต้แนวคิด” Weaponization of social media “

เมื่อมีข้อมูลพฤติกรรม ของกลุ่มเป้าหมายในมือ

ผู้ปฏิบัติการ จะชี้นำประเด็น หรือใส่มุมมอง เพื่อให้เกิดความคิด ความเชื่อ ตามที่ตั้งเป้าไว้ ให้สอดคล้องกับ พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายได้ไม่ยาก หรือไม่ให้กลุ่มเป้าหมายรู้ตัว

จากนั้นแล้วสร้างกระแส ให้เกิดความเชื่อในทิศทางเดียวกัน ในรูปแบบเดียวกัน เช่น การใส่  # … # (จะกลายเป็นพวกเดียวกัน เหมือนใส่เสื้อทีมเดียวกัน)

จากนั้น นำเข้าไปในโซเซียล เมื่อมีคนที่เห็นต่าง เข้ามาแสดงความเห็นหรือท้าทายความเชื่อนั้นๆ จะถูกโจมตีกลับจากคนพวกเดียวกัน

การโจมตีทางภาษา จะมีตั้งแต่ เบาบางจนถึง ก้าวร้าว หยาบคาย ขึ้นกับดีกรีความรู้สึกของแต่ละคน 

คล้ายๆ เป็นเกมส์ที่ยิงกันด้วยวาจา อาจยิงโดยคนเดียวหรือเป็นหมู่

ในเพจใหญ่ๆ หรือเพจเป้าหมาย อาจมีพี่เลี้ยงคอยประกบ เพื่อส่งแรงยุ หรือดันเกมส์ ให้หนักขึ้น โดยมีเป้าหมายคือ ให้อีกฝ่ายที่เห็นต่างพังทลาย หรือไม่กล้าวิจารณ์อีกต่อไป

(บางทีคนที่ไม่รู้อิโหน่อีเหน่ หลงเข้าไปถ้ามี ภาษามีกลิ่นอายในทางตรงข้าม พวกที่ลาดตระเวณ อาจเข้ามายิงด้วยวาจา ขู่ให้กลัว)

กลุ่มเป้าหมายจะไม่รู้ตัวว่า ถูกปั้นให้เป็นทหาร กลับมีความรู้สึกว่า ตนเองเป็นผู้รู้ ผู้เข้าใจ ผู้กล้า ที่ยึดหลักการความถูกต้อง

ผลลัพธ์ ที่ผู้ใช้ weapon ได้ คือ

 • การทำลายความเห็นต่างของฝ่ายตรงข้าม  

ผลที่ผู้ถูกหลอกให้เป็นทหารได้ คือ

 • ความลำพองใจในชัยชนะของพวกเดียวกัน และ ยึดมั่นในความคิดที่ถูกย้อมและในภายหน้า อาจมีพฤติกรรมที่กร้าวร้าวขึ้นตามวันเวลา

และหากนานวันขึ้น ในกรณีเลวร้ายสุดๆ มีโอกาสที่จะถูกย้อมสมอง เหมือนกับพวกเรดการ์ด หรือยุวชนนาซี

ผลกระทบในทางสังคมคือ สังคมเกิดความแตกแยก อย่างเห็นได้ชัด

หลายคนอาจสังเกตว่า ในช่วงนี้คนใน social มีพฤติกรรมการใช้วาจารุนแรงขึ้น มีการรุมยิง ด้วยภาษาต่อผู้ที่เห็นต่าง มีการใช้ชุดความคิด แบบเดียวกันหรือคล้ายกัน มีการใช้สัญลักษณ์ในแนวทางเดียวกัน ช่วงเวลาใกล้ๆ กัน ในคนหลากหลายวัย

นั่นก็คือ รูปแบบ weaponization of social media

ในหลายประเทศ เริ่มพูดถึงเรื่องนี้กันมากขึ้น เพราะเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ

คนในชาติเกิดความแตกแยก ความคิด ความเชื่อ เกิดความเกลียดชังกัน

หากมีการใช้ weaponนี้ ในบ้านเรา ไม่ใช่เรื่องที่เป็นเพียง ความเห็นต่างธรรมดาๆ

แต่มันคือ การล้างสมองและคนที่นำมาใช้นั้น ก็ไม่รู้ว่า …” จิตใจของเขาทำด้วยอะไร “ที่ทำร้ายคนในชาติเดียวกัน

อ่านดู ก็เหมือนเรื่อง คิดมโนเกินเหตุ ก็ลอง พิจารณาและลองสังเกตกันจริงจังเอง

ถ้าบ้านเรา มีการใช้แนวคิด weapon จริง

มันเป็นเรื่องใหญ่ ของสังคมบ้านเรา