วันเสาร์ 23 พฤศจิกายน 2024
  • :
  • :
Latest Update

หยุดยืมมือต่างชาติทำลายจุฬา!!

นายกิตติธัช ชัยประสิทธิ์ ผู้ติดตามความเคลื่อนไหว ภายใน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ ที่ สื่อต่างประเทศบางสำนักได้ นำเสนอข่าวกฏดันไปทาง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกี่ยวกับประเด็น การปลด เนติวิทย์  โดยระบุว่า

#หยุดยืมมือต่างชาติทำลายจุฬา!!
ล่าสุดเริ่มลามไปถึงการล่ารายชื่อ
บรรดานักวิชาการในต่างประเทศ
มา “ประนาม” และ “กดดัน” จุฬาฯ
ให้ทางจุฬาฯ ยกเลิกการตัดคะแนน
ความประพฤติของกลุ่มเนติวิทย์
———————

– หลังจากที่มีอดีตนิสิตอักษรจุฬาฯ
ซึ่งทำงานเขียนข่าวให้กับ Reuters
ไปทำการตัดทอนข้อเท็จจริงในเหตุ
ความวุ่นวายในพิธีถวายสัตย์ของจุฬา
เพื่อทำให้ผู้อ่านชาวต่างชาติที่มาอ่าน
เกิดความเข้าใจผิดในการตัดสินของจุฬา

https://www.facebook.com/kittitouch.chaiprasith/posts/1556988377698649

จากนั้นสำนักข่าว Voice TV หยิบมาพาดหัวต่อ
“สื่อนอกเผยคำสั่งจุฬาฯ ยิ่งทำให้เนติวิทย์เป็นฮีโร่”
https://news.voicetv.co.th/world/520645.html

– ก่อนที่ทาง ดร.ฐิติพล ภักดีวานิช
คณบดีคณะรัฐศาสตร์ ม.อุบลราชธานี
จะเอาไปโพสท์ใน Twitter ต่ออีกทีหนึ่ง
และ Jonathan Head แห่ง BBC ก็นำไป
ทวิตบิดเบือนเหตุการณ์ไปไกลขึ้นขั้นว่า…

“เนติวิทย์ถูกปลดเพราะไม่ยอมหมอบกราบ
ต่อ(รูปปั้น)กษัตริย์ที่ยกเลิกการหมอบกราบ
นี่แหละมหาวิทยาลัยของพวกชนชั้นนำไทย!”

(He was removed for refusing to prostrate himself before the statue of a king who abolished prostration. This is Thailand’s elite university!)

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1557212261009594&set=a.317649274965905.77169.100001625041497&type=3&theater

————————

– ล่าสุดหลังจากนั้นได้แค่วันสองวัน
ทางเครือข่ายนักวิชาการในประเทศไทย
ที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มเนติวิทย์
(เช่น ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดี มธ.
รวมถึงอาจารย์บางคนในคณะรัฐศาสตร์จุฬา)
ได้จัดทำ Petition (ข้อเสนอ/ข้อเรียกร้อง)
ใน Google Document เพื่อล่ารายชื่อ
โดยมีหัวข้อของการล่ารายชื่อว่า…

“การแถลงจุดยืนสนับสนุนนิสิตจุฬาฯ”
(หมายถึงกลุ่มเนติวิทย์และพรรคพวก)
Statement in Support of Chulalongkorn University students

https://docs.google.com/…/1ePWDEBTEtTFK4YJk_h9Rk0…/viewform…

– โดยล่ารายชื่อระบุถึง #ผู้บริหารจุฬาฯ
ให้เคารพมาตรฐานสากลในการแสดงออก
และคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน และประกาศว่า
การลงโทษตัดคะแนนความประพฤติของ
นายเนติวิทย์และพรรคพวกนั้นเป็นสิ่งที่
ไม่ยุติธรรม และ ต้องถูกยกเลิก!!!

(the unfair punishments of Netiwit Chotiphatphaisal and other students must be cancelled!)

– ใน Petition นี้ระบุว่าขอปกป้องเนติวิทย์และพวก
ที่ “เพียงแต่” เดินออกพิธีเพื่อไปแสดงความเคารพ
ในรูปแบบที่แตกต่าง ซึ่งถือเป็นเสรีภาพขั้นพื้นฐาน
และขอให้ทางจุฬาฯ เคารพสิทธิในการแสดงออก
ของผู้ที่มีความเห็นที่แตกต่าง

(We, activists, writers, scholars and human rights defenders have been following the case of eight Chulalongkorn University students who walked out of the university’s freshmen initiation ceremony to pay respect to the statues of King Rama V and King Rama VI in an alternative manner.We sustain that their actions were congruent with human rights principles. Furthermore, the university should respect the demonstration of different opinions as well as alternative forms of expression.)

*** จากนั้นระบุลงท่ายว่า….

#เราขอประนามจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ที่ลงโทษนิสิตทั้ง 8 คนนี้ ซึ่งการลงโทษนี้
เป็นการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกซึ่ง
เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับจุฬาฯ และสังคมไทย
พวกเราเครือข่ายนักวิชาการและนักเขียน
ขออุทธรณ์ให้ จุฬาฯ ทำการ #นิรโทษกรรม
ให้กับการกระทำของนิสิตกลุ่มนี้ และขอให้
#ยกเลิกการบังคับทางวินัยของมหาวิทยาลัย

(We denounce the university’s punishment of these eight students. This punishment effectively constrains freedom of expression, indispensable for Chulalongkorn University and Thai society. We would like to appeal for amnesty on behalf of the students, and ask the university to rescind its disciplinary actions)

————————

*** เป็นอย่างไรกันบ้างครับ?
สิ่งที่ผมเตือนไว้หลายครั้งแล้ว
ตอนนี้หลายคนที่อาจจะไม่เชื่อ
ก็คงเห็นภาพชัดมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
ว่าที่จุฬาฯ กำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้
ไม่ใช่แค่นิสิตกลุ่มหนึ่งที่มีพฤติกรรม
ต้านสังคม (ซึ่งเป็นเรื่องปกติของวัยรุ่น)
ที่อาจมีความวุ่นวายและเดี๋ยวเรื่องก็สงบ

*** แต่เป็นนิสิตที่มีเครือข่ายทางการเมือง
(ที่ไม่ใช่พรรคการเมืองแต่เป็นนักวิชาการ)
หนุนอยู่เบื้องหลัง และใช้เด็กเป็นเครื่องมือ
ในการเคลื่อนไหวสร้างความปั่นป่วนเวลานี้

เมื่อเขารู้แล้วว่าการกดดันในประเทศ
ทำไม่ได้ และเครือข่ายประชาคมจุฬาฯ
โดยเฉพาะสมาคมศิษย์เก่าในคณะต่างๆ
เริ่มมีปฏิกริยาตอบกลับที่รุนแรงมากขึ้น

และอำนาจการตัดสินใจก็อยู่ที่ทางจุฬาฯ
ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่นักวิชาการบางคนที่มาจาก
มหาวิทยาลัยอื่นหรือบางกล่มที่อยู่ในจุฬาฯ
(ซึ่งมีจำนวนน้อย) จะมากดดันผู้บริหารจุฬาฯ
……………………..

*** ทางเดียวที่พวกเขาจะเล่นเรื่องนี้ได้นั้น
จึงเป็นการยืมมือ สื่อ และเครือข่ายวิชาการ
ในต่างประเทศ มาประนามและกดดันจุฬาฯ

ซึ่งถ้าจุฬาฯ ยอมทำตาม พวกเขาก็จะได้ใจ
และรู้ว่าต่อไปถ้าเด็กกลุ่มนี้หรือกลุ่มอนาคต
จะเคลื่อนไหวป่วนในจุฬาฯ ก็ทำได้ง่ายมาก
เพราะถ้าจุฬาฯ จะทำการลงโทษอะไรก็ตาม
พวกเขาก็จะใช้ สื่อต่างชาติ และ นักวิชาการ
ออกมากดดันให้จุฬาฯ ทำตามคำสั่งพวกเขา

*** แต่ถ้าจุฬาฯ ไม่ทำตามคำสั่งของพวกเขา
เขาจะทำการ #ดิสเครดิต/ทำลายชื่อเสียงของ
จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยในวงวิชาการ ว่าเป็น
มหาวิทยาลัยที่จำกัดเสรีภาพการแสดงออกและ
และลงโทษนิสิตที่คิดต่างจากธรรมเนียมแบบ
ราชานิยม (อันนี้ยืมสำนวนมาจาก Reuters)

http://www.reuters.com/…/thai-university-removes-student-le…

*** ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่าอีกไม่นาน
สำนักข่าวในประเทศบางสำนัก (เจ้าเดิมๆ)
ก็จะนำเรื่อง Petition นี้ มาขยายผลอีกที
โดยอาจจะพาดหัวทำนองว่า…

“เครือข่ายนักวิชาการระดับโลก
สนับสนุนเนติวิทย์และพรรคพวก
พร้อมกดดันให้จุฬายกเลิกการลงโทษ”

หมายเหตุ: ผมพูดดักทางไว้ก่อนเลย
เพราะเรื่องนี้มาแน่นอน แค่ว่าเมื่อไรเท่านั้น

(เขาไม่ล่ารายชื่อนักวิชาการ
จากมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ
แล้วเอาไปอมไว้เงียบๆ หรอกนะครับ…)

หมายเหตุ 2: ผมเตือนแล้วว่าพวกเขา
จะไม่หยุดจนกว่าเขาจะได้ในสิ่งที่ต้องการ
ไม่รู้ถึงตอนนี้ หลายคนที่คิดว่าผมคิดไปเอง
จะเห็นภาพอะไรๆ ชัดมากขึ้นบ้างหรือยัง

ป.ล.ส่วนตัวผมคิดว่าพวกนักวิชาการไทย
ที่เขียนและไปเล่าเหตุการณ์เหล่านี้ให้กับ
ทางเครือข่ายนักวิชาการ (ที่เขารู้จัก) ฟังนั้น
อาจไม่ได้นำเสนอเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ว่ามีบริบทอย่างไร เขาคงบอกเพียงแค่ตามที่
เขาเขียนมาเท่านั้น ไม่ต่างอะไรจากข่าวของ
Reuters (ที่เขียนโดยบัณฑิตอักษรฯคนหนึ่ง)

ที่ตัดทอนเหตุการณ์จนเหลือเนื้อหาเพียงแค่ว่า
เนติวิทย์และพรรคพวก โดนตัดคะแนนและปลด
ออกจากสภานิสิตเพียงเพราะไม่ยอมหมอบกราบ

————————

– ขออยากฝากถึงนิสิตบางคนที่ยังเคลื่อนไหว
อยู่กับเรื่องนี้ ผมคิดว่าพวกคุณอาจจะไม่ทราบ
และอยากแสดงออกตามวัยต่อต้าน (ซึ่งปกติ)
แต่คุณควรจะไหวตัวได้แล้วว่า เรื่องนี้นั้นมัน
#เกินเลยไปมากแล้ว คุณอย่าให้คนอื่นมา
หลอกใช้คุณเป็นเครื่องมือทางการเมือง

– มันไม่คุ้มหรอกที่จะเอาชีวิตในมหาวิทยาลัย
(และอาจจะนอกมหาวิทยาลัยด้วย) มาทิ้งไว้
เรื่องราวเหล่านี้ กลุ่มคนที่ทำเหมือนสนับสนุน
เขาแค่หลอกใช้ให้คุณเดินตามหมากของเขา
วันหนึ่งที่หมดประโยชน์ เขาก็ไม่เหลียวแล
คุณจะเป็นอย่างไร เขาไม่มาสนใจหรอก…

(จะมีก็เพียงแต่คนที่เขาปั้นมาเท่านั้น
ที่เขาจะดูแล ซึ่งตอนที่สอบสวนเรื่อง
พวกคุณก็คงได้เห็นกันไปบ้างแล้ว)

*** ดังนั้นหยุดเถอะครับ
อันนี้เตือนด้วยความห่วงใย
เพราะไม่อยากเห็นเยาวชน
ของชาติต้องตกเป็นเหยื่อคน
ที่ทำตัวเป็นอีแอบอยู่เบื้องหลัง

– สุดท้ายผมอยากฝากให้คนในสังคมเข้าใจ
ว่ามันไม่มีประโยชน์หรอกที่คุณจะไปด่าเด็ก
เพราะเด็กเหล่านี้ อาจไม่รู้ว่าเขากำลังถูกใช้
จากบุคคลที่อยู่เบื้องหลังที่สนับสนุนพวกเขา
(แต่ตัวเองไม่กล้าออกมาเย้วๆ เองเพราะห่วง
ตำแหน่งหน้าที่การงานตัวเองในมหาวิทยาลัย)

– ที่สังคมควรเพ่งเล็งคือบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง
พวกผู้ใหญ่กลุ่มที่ใช้เด็กเป็นเครื่องมือต่างหาก
คนกลุ่มนี้คือคนที่ควรประนาม เพราะเขาใช้เด็ก
และเยาวชนที่ควรจะได้เรียนรู้และเติบโตตามวัย
มาเป็นเครื่องสนองอัตตาทางการเมืองให้กับเขา!!!

——————–

อัพเดท:

ล่าสุดทางจุฬาฯ ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้
กรณีการบิดเบือนข้อมูลของสื่อต่างประเทศ
(ที่เขียนโดยอดีตนิสิตจุฬาเอง) แล้วในวันนี้
แต่ทั้งนี้ที่ควรทำจริงๆ คือแถลงการณ์ที่เป็น
ภาษาอังกฤษ เพื่อให้บรรดาศิษย์เก่า หรือ
ประชาคมจุฬาฯ ที่อยากนำเหตุการณ์ต่างๆ
ไปชี้แจงให้กับเพื่อน/นักวิชาการต่างชาติ

(ที่รับฟังความข้างเดียวจากคนไทยบางกลุ่ม)

เพราะตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องในประเทศแล้วครับ
แต่มันเป็นเรื่องเอาต่างประเทศมาโจมตีจุฬาฯ
ดังนั้นแถลงการณ์ภาษาไทยไปก็เท่านั้นครับ

http://www.chula.ac.th/th/archive/65905

อัพเดท 2:

ล่าสุดทางจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย
ได้ออกแถลงการณ์เป็นภาษาอังกฤษแล้ว
นอกจากชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ยังแนบข้อมูลที่แสดงความแตกต่างระหว่าง
การถวายบังคม (paying obeisance) กับ
การหมอบกราบ (prostration) ไว้ชัดเจน
เพื่อไม่ให้คนบางกลุ่มนำไปบิดเบือนอีก!!

http://www.chula.ac.th/en/archive/9213

 


#หยุดยืมมือต่างชาติทำลายจุฬา!!
ล่าสุดเริ่มลามไปถึงการล่ารายชื่อ
บรรดานักวิชาการในต่างประเทศ
มา “ประนาม” และ “กดดัน” จุฬา…

โพสต์โดย Kittitouch Chaiprasith บน 5 กันยายน 2017