เขาเป็นคนอังกฤษ ที่มาอยู่เมืองไทย อยากรู้จักประเทศไทย จึงได้ถามผมว่า
“ทำไม คนไทยรักพระเจ้าอยู่หัวฯนัก และทำไมถึงร้องไห้มากมายเมื่อพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จสวรรคต”?
……………………….
จึงถามเขาว่า “คุณเชื่อเรื่องพระเจ้ามั้ย เคยเห็นพระเจ้ามั้ย?”
เขาบอก เขาเชื่อ แต่ไม่เคยเห็น
จึงถามต่อไปว่า คุณใช้สมอง หรือหัวใจของคุณ เชื่อเรื่องพระเจ้า?
เขาตอบว่า “ใจ”
จึงถามอีกว่า พระเจ้าของคุณมีจริงมั้ย?
หรือความจริงแล้วคุณใช้สมองของคุณ ยอมรับคำสอนที่สืบต่อกันมาสองพันกว่าปีนั้นด้วยศรัทธา จากการบอกต่อๆกันมา และที่เขียนในไบเบิ้ล?
เขาว่า “ก็น่าจะใช่” คือ “ใช้สมอง คิดตาม ยอมรับ และศรัทธาในศาสนา”
………………………
ผมจึงเล่าว่า “คนไทย ใช้ดวงตามองเห็นการกระทำ ที่พระเจ้าอยู่หัวทำซ้ำๆ มาเจ็ดสิบปี ใช้สมองรับรู้ในความช่วยเหลือ ใช้สมองพิจารณาว่านั่นคือการให้โดยไม่คาดหวังสิ่งใดกลับคืน และใช้ประสบการณ์ที่ยาวนานในช่วงชีวิตปัจจุบัน เรียนรู้ความเปลี่ยนแปลงของทุกๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ เศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ รวมถึงได้คิดตามคำสอน ที่รวมเอาความดีงามของคำสอนจากทุกศาสนา เข้ากับวิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ กลายเป็นหลักวิธีเพื่อดำเนินชีวิตในสภาพที่โหดร้ายของโลกปัจจุบัน อย่างมีความสุขและสันติ
“จากการได้เห็นจริงๆ ได้คิดตาม สิ่งที่เห็นนั้น ผนวกกับคำสอน ที่เป็นปัจจุบัน จึงกลายเป็นความรักและสำนึกในบุญคุณ ด้วยใจ”
คุณว่าคนไทย ฉลาด มีเหตุ มีผล หรืองมงายในสิ่งที่กำลังแสดงออกเพื่อแทนความรักที่มีต่อในหลวงเช่นนี้?
เขา จึงแสดงออกว่าเขาเข้าใจคนไทยแล้ว ด้วยการปล่อยให้น้ำตาค่อยไหลคลอรอบดวงตาของเขาแบบเงียบๆ
ผมบอกเขาอีกว่า อย่าไปคิดว่าคนในรูปนั้นเป็น King ในแบบที่ อังกฤษมี
ถ้าคุณอยากรู้สึกถึงความเป็นไทย ขอให้คิดว่า คุณพ่อ คุณปู่ที่เลี้ยงดูคุณมานานแสนนานด้วยความรัก ความปรารถนาดี ผู้ทุ่มเทแรงกายแรงใจ สติปัญญา ทรัพย์สินที่มีอยู่เพื่อสร้างความสุขที่ยั่งยืนแก่คุณ แก่คนอื่นๆทั้งประเทศ และแก่มนุษย์ทั้งโลก ได้จากคุณไปแล้ว…แล้วคุณจะเข้าใจว่าคนไทยรู้สึกอย่างไร ทำไมเราร้องไห้?
ที่มา : เฟซบุ๊ค พิษณุ โถยอด