ธนาคารกลางเยอรมนี ได้โยกย้ายทองคำแท่งมูลค่า2.4หมื่นล้านยูโรจากนิวยอร์กและปารีสกลับสู่นครแฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งการโยกย้ายทองคำนี้เสร็จสิ้นก่อนกำหนดถึง 3 ปี
ทั้งนี้ มีการโยกย้ายทองคำ 674 ตัน หรือทองคำแท่งจำนวน 54,000 แท่ง จากนิวยอร์ก และปารีสไปยังแฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งการที่มีทองคำแท่งจำนวน 3,378 ตัน ทำให้บุนเดสแบงก์เป็นธนาคารกลางที่ถือครองทองคำมากเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐ
ในจำนวนทองคำ 674 ตันของเยอรมนี ที่ถูกถอนกลับประเทศครั้งนี้ คิดเป็นทองคำที่ฝากไว้ในมหานครนิวยอร์กของสหรัฐ 300 ตัน ส่วนอีก 374 ตันที่เหลือเป็นทองคำที่ฝากไว้กับธนาคารกลางฝรั่งเศส และทองคำล็อตนี้ ที่เยอรมนีจะดึงกลับประเทศมีมูลค่าคิดเป็นกว่า 1 ใน 5 ของทองคำสำรองทั้งหมดของเยอรมนี
ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์รายวันฮันเดิลสบลัตต์ ของเยอรมนีรายงานว่า บุนเดสแบงก์ มีแผนนำทองคำของตนจำนวนมากที่ฝากไว้ในประเทศอื่น ทั้งในสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศสและสหรัฐ กลับประเทศ เพื่อความมั่นคงทางการคลัง ถือเป็นหนึ่งในการโยกย้ายทองคำระหว่างประเทศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก หลังจากรัฐบาลเยอรมนีในอดีตโดยเฉพาะตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่างมีนโยบายนำทองคำของตนไปฝากไว้ในต่างแดนเพื่อกระจายความเสี่ยงจากสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศที่ตึงเครียดในยุคสงครามเย็น เนื่องจากรัฐบาลเยอรมนีในเวลานั้นหวั่นกลัวว่า ทองคำของประเทศจะถูกสหภาพโซเวียตยึดครอง
ขณะนี้ ทองคำของเยอรมนีประมาณ 45% ถูกนำไปฝากไว้ในธนาคารกลางสหรัฐ ขณะที่อีก 13 % และ 11 % ถูกนำไปเก็บไว้ในธนาคารกลางของอังกฤษ และธนาคารกลางฝรั่งเศสตามลำดับ ส่งผลให้มีปริมาณทองคำเพียงแค่ 31 %เท่านั้นที่ถูกเก็บไว้ภายในสำนักงานใหญ่ของบุนเดสแบงก์ หรือธนาคารกลางเยอรมนี ในนครแฟรงก์เฟิร์ต