เมื่อ เมษายน 2560 ที่ผ่านมา รัฐบาลเยอรมันอนุมัติกฎหมายปรับสูงสุด 50 ล้านยูโร หรือราว 1,824 ล้านบาท บริษัทยักษ์ใหญ่ออนไลน์ที่ไม่ลบเฮทสปีชและข่าวปลอมภายใน 1 สัปดาห์

คณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล แถลงในเรื่องนี้ระบุนอกจากจะปรับเงินบริษัทยักษ์ใหญ่ออนไลน์แล้ว ผู้บริหารกลุ่มบริษัทโซเชียลมีเดียทั้งหลาย ได้แก่ ทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก ถ้าพบว่าไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของเยอรมนีอาจจะถูกปรับรายละ 5 ล้านยูโร หรือราว 184 ล้านบาท กฎหมายนี้ออกมาเพื่อต้องการขจัดอาชญากรรมจากความเกลียดชัง ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในสังคมประชาธิปไตยที่เปิดกว้างและมีเสรีภาพ

ตั้งแต่ปี 2558 ที่เยอรมนีเปิดประเทศรับผู้ลี้ภัยเข้ามาทำให้เยอรมนีมีผู้ลี้ภัยราว 1 ล้านคน ทำให้เกิดเฮทสปีชที่มาจากความเกลียดกลัวชาวต่างชาติทางออนไลน์เพิ่มมากเช่นกัน รัฐบาลเยอรมันได้ออกมาเตือนบริษัทยักษ์ใหญ่ออนไลน์หลายครั้งให้แก้ไขเรื่องนี้ ซึ่งจะทำได้ดีกว่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ

กฎหมายที่เยอรมนีจะบังคับใช้นี้ นอกจากจะให้บริษัทออนไลน์ลบเนื้อหาที่เป็นเฮทสปีชและข่าวปลอมแล้ว กฎหมายนี้ครอบคลุมถึงเนื้อหาที่ผิดกฎหมายต่างๆ ได้แก่ ภาพลามกอนาจารของเด็กและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย โดยบริษัทออนไลน์มีเวลา 24 ชั่วโมง ในการลบโพสต์ต่างๆ ที่ผิดกฎหมายเยอรมัน หลังจากผู้ใช้บริการมีการรายงานเข้ามา ส่วนเนื้อหาที่เป็นเฮทสปีชหรือข่าวปลอมต่างๆ ให้เวลา 7 วันในการลบออกไป หลังมีการรายงานเข้ามา และบริษัทโซเชียลมีเดียจะต้องออกแบบให้ผู้ใช้บริการรายงานโพสต์ที่มีปัญหาให้ง่ายขึ้นด้วย

คณะรัฐมนตรีเยอรมันระบุด้วยว่า วัฒนธรรมการโต้เถียงอภิปรายทางออนไลน์บ่อยครั้งนำไปสู่การก้าวร้าว, ความเจ็บปวดและความเกลียดชังที่อาจนำไปสู่อาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชัง เพราะทุกคนมีโอกาสที่จะถูกใส่ร้ายป้ายสีได้ ไม่ว่าจะเกิดจากการแสดงความคิดเห็น, สีผิว, ชาติกำเนิด, ศาสนา, เพศและรสนิยมทางเพศ